xs
xsm
sm
md
lg

ขาขึ้นรอบสุดท้ายตลาดหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นปีนี้ใกล้ปิดฉากเต็มที และแม้ว่า มูลค่าซื้อขายจะถดถอย แต่ดัชนีกลับเดินหน้าต่อเนื่อง จนได้ลุ้นกันว่าสิ้นปีหุ้นอาจยืนเหนือ 1,420 ตามความคาดหวังได้

ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นักลงทุนไม่แน่ใจว่าดัชนีปลายปีจะสามารถทะลุแนวต้านระดับ 1,400 จุดได้หรือไม่ แต่แรงซื้อของต่างชาติที่ไหลกลับมา และกองหนุนจากกองทุน TESG ช่วยผลักดันให้หุ้นเดินหน้าต่อไป

จนล่าสุดวันอังคารที่ 26 ธันวาคม ปิดที่ 1,413.45 จุด และทำให้เกิดความมั่นใจว่า ดัชนีคงไม่ถอยหลังหลุด 1ป400 จุดแล้ว แต่อาจขยับขึ้นไปที่ 1,420 จุดได้ในวันส่งท้ายปีเก่า

ปกติสัปดาห์สุดท้ายของแต่ละปี บรรยากาศการลงทุนจะเงียบเหงา หุ้นแกว่งตัวบวกลบในกรอบแคบๆ แต่ปีนี้ตลาดหุ้นกลับมีชีวิตชีวา ไม่เงียบสนิทเสียทีเดียว

การที่ต่างชาติหยุดการลงทุนเพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้น เพราะแรงขายของต่างชาติลดลง และยังมีแรงซื้อเข้ามาในบางวันเสียด้วย

นอกจากนั้น ยังมีเงินไหลเข้าจากกองทุน TESG ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดหุ้น รวมทั้งการทำวินโดว์เดรสซิ่ง หรือทำราคาปิดเพื่อบัญชีการลงทุนในหลักทรัพย์สูงขึ้นของนักลงทุนสถาบัน และเห็นได้ชัดจากราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่ราคาทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้

การปลอดแรงขายของต่างชาติ การปลอดข่าวร้าย เป็นสิ่งที่เอื้อให้ตลาดหุ้นเกิดขาขึ้นรอบเล็กๆ ก่อนปิดฉากปี 2566 หลังจากอยู่ในช่วงขาลงรอบใหญ่มาเกือบตลอดทั้งปี

หุ้นกลุ่มหลักๆ มีแรงซื้อจากกองทุน TESG เข้ามาทำให้ราคาขยับขึ้น ขณะที่หุ้นตัวเล็กๆ มีขาใหญ่ เจ้ามือหรือเจ้าของเข้ามาจุดพลุกระตุ้นการเก็งกำไรจนตลาดหุ้นดูสดใส นักลงทุนมีกำลังใจขึ้น แม้ภาพโดยรวมปีนี้จะเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันก็ตาม

จากกลางเดือนธันวาคม ดัชนีทรุดฮวบลงไปปิดที่ระดับ 1,357 จุด สร้างจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี แต่เด้งขึ้นมาจนยืนที่ระดับ 1,413 จุด และอาจไปต่อจนทะลุ 1,420 จุดได้ ถือว่าสถานการณ์การลงทุนกระเตื้องขึ้นมาไม่น้อย

ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีตีตื้นขึ้นมาประมาณ 60 จุด เพราะข่าวร้ายๆ เริ่มจางหาย โดยเฉพาะความวิตกกังวลผลกระทบการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

นักลงทุนที่ขาดทุนในปีนี้คงแก้ตัวไม่ได้แล้ว เพราะนับถอยหลังการปิดฉากตลาดหุ้นแล้ว ต้องรอตามทุนในปีหน้า ซึ่งทุกฝ่ายเชื่อว่า บรรยากาศการลงทุนน่าจะกระเตื้องขึ้น

และอาจมีข่าวดีในช่วงต้นปีเกี่ยวกับการทบทวนโปรแกรมการซื้อขาย หรือ ROBOT TRADING ที่กระทรวงการคลังสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ศึกษาทบทวนผลดีผลเสีย และจะสรุปผลการทบทวนต้นปีหน้า

แต่ความเคลื่อนไหวที่จับตากันมากที่สุดคือ นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งยังเป็นคำถามว่าจะกลับมาซื้อหรือไม่

หุ้นที่ป่วยไข้มาตลอดทั้งปี 2566 เป็นเพราะต่างชาติถล่มขายไม่เลิก

ถ้าต่างชาติไม่เทขายหุ้นหนักระดับ 1.95 แสนล้าน หุ้นคงไม่รูดมหาราชถึงประมาณ -15%

อย่างไรก็ตาม ขาขึ้นรอบเล็กๆ ในสัปดาห์ส่งท้ายปีถือเป็นการปลอบประโลมนักลงทุนที่เศร้าหมองมายาวนานเกือบ 12 เดือนเต็ม

บรรยากาศช่วงปิดฉากตลาดหุ้นปี 2566 ปลุกความหวังเล็กๆ สำหรับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นปี 2567








กำลังโหลดความคิดเห็น