หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นคืนสู่ความสดใสรอบใหม่ ราคาหุ้นขยับกันยกแผง โดยเฉพาะหุ้นบริษัท เคซีอี อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ที่โดดเด่นนำกลุ่ม
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หุ้น KCE ถูกถล่มขายอย่างหนัก หลังมีข่าวว่าเครื่องจักรมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถขยายกำลังผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ โดยจะต้องเลื่อนกำลังผลิตใหม่ไป 1-2 ไตรมาส กระทบต่อการรับรู้รายได้ปี 2565
ราคาหุ้น KCE ทรุดลงหนักในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 8.50 บาท ฉุดให้หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ร่วงตาม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA และหุ้น บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หุ้น KCE ปรับตัวขึ้นมาตลอด เช่นเดียวกับหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ตัวอื่นๆ วิ่งราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่กันเป็นแถว โดย KCE ขึ้นสูงสุดที่ 95 บาท เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2564 ก่อนที่จะย่อตัวลง และรูดลงแรง เมื่อแผนการขยายกำลังผลิตสะดุด รวมทั้งถูกซ้ำเติมด้วยผลกระทบจากสงครามยูเครน
ราคาหุ้นรูดลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบนี้ที่ 53.50 บาท ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย วันที่ 8 มีนาคม หลังจากนั้นจึงเริ่มตั้งหลักดีดตัวกลับขึ้นมาใหม่ โดยล่าสุดวันพุธที่ 23 มีนาคมทะยานขึ้นมาปิดที่ 65 บาท
ภายใน 2 สัปดาห์ ราคาหุ้น KCE ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดที่ลงไปต่ำสุดรวม 11.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 21.49% โดยฟื้นตัวขึ้นในอัตราใกล้เคียงเดียวกันกับหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์แต่ยังห่างไกลจากราคาสูงสุดเดิมที่ 95 บาท
กระแสหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมาสู่ความสนใจของนักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง โดยดัชนีหุ้นแนสแดคของสหรัฐฯ ทะยานขึ้นแรง เพราะมีการไล่ซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลในเชิงจิตวิทยา กระตุ้นการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดหุ้นไทย
KCE มีค่าพี/อี เรโช 30 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.5% โดยผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องปี 2562 มีกำไรสุทธิ 934.49 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิ 1,126.79 ล้านบาท และปี 2564 มีกำไรสุทธิ 2,426.28 ล้านบาท
ข่าวร้ายที่กระหน่ำใส่ KCE ในช่วงต้นปี อาจกลับมาเป็นข่าวดีในช่วงท้ายของปี โดยโครงการขยายกำลังผลิตที่มีปัญหาสะดุด ทำให้การรับรู้รายได้ไม่เป็นไปตามแผน แต่หากแก้ไขปัญหาเครื่องจักรเสร็จสิ้น และเดินเครื่องเพิ่มกำลังผลิตในครึ่งปีหลัง จะส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น
จากจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาที่ 95 บาท เมื่อเทียบกับจุดปิดล่าสุดที่ 65 บาท KCE ยังห่างไกลจากจุดสูงสุดเดิม 30 บาท แต่หากผลประกอบการปีนี้เติบโต โดยมีแรงหนุนจากการรับรู้รายได้จากการเพิ่มกำลังผลิต ราคาหุ้นมีโอกาสขยับขึ้นไปสร้างสถิติใหม่ได้
ดังนั้น จึงต้องติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเครื่องจักรที่จะเพิ่มกำลังผลิตใหม่ ถ้าสำเร็จลุล่วง เริ่มต้นขยายกำลังผลิตได้ตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนด จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้หุ้นคึกคักรอบใหม่
จุดต่ำสุดของหุ้น KCE อาจผ่านพ้นไปแล้วที่ราคา 53.50 บาท แต่จุดสูงสุดเดิมที่ 95 บาท ยังต้องรอลุ้นกันว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะขยับไปถึง
และครึ่งปีหลัง นักลงทุนจะได้ลงจากยอดดอย KCE หรือไม่
