เป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้ถูกโบรกเกอร์ประเมินไว้สวยหรู ตัวเลขอยู่ระหว่าง 1,550 จุด ถึง 1,700 จุด สะท้อนว่าบรรยากาศการลงทุนหุ้นจะกระเตื้องขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งดัชนีทรุดลง 252 จุด หรือปรับตัวลง 15.15%
ภายใต้สมมติฐานการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ปัจจัยสนับสนุนส่วนหนึ่งเกิดจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แทบทุกสำนักเชื่อว่าต่างชาติจะกลับมาลงทุน หลังจากปี 2566 เทขายหุ้นจำนวน 1.49 แสนล้านบาท จากปี 2565 ที่ซื้อหุ้น 1.98 แสนล้านบาท
การเทขายหุ้นอย่างหนักในปีก่อน ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อว่าปีนี้ต่างชาติคงไม่มีหุ้นออกมาขายเท่าไหร่ และมีโอกาสกลับมาซื้อ เพราะระดับราคาหุ้นของไทยตกลงมาในจุดที่สร้างแรงจูงใจ
สัปดาห์แรกของการซื้อขายหุ้นปิดฉากลงแล้ว แม้ต่างชาติจะซื้อหุ้นสลับการขาย โดย 4 วันทำการ ซื้อหุ้น 2 วัน ขาย 2 วัน แต่หักกลบลบตัวเลขกันแล้ว ปรากฏว่า มียอดขายหุ้นสุทธิ 2,087.64 ล้านบาท โดยเฉพาะวันศุกร์ที่ 5 มกราคม เทขายกระหน่ำ 3,096.17 ล้านบาท ฉุดดัชนีร่วง 6.63 จุด
ประเดิมเริ่มต้นปีใหม่ต่างชาติยังไม่ได้ปรับกลยุทธ์ หรือปรับมุมมองเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทย โดยการปักหลักขายหุ้นต่อ เป็นการส่งสัญญาณว่าแนวโน้มหุ้นไทยยังไม่สดใสนัก
ถ้าต่างชาติไม่กลับมา บรรยากาศการลงทุนอาจไม่คึกคัก เพราะขาดแรงซื้อสำคัญที่จะขับเคลื่อนดัชนี และแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศยังอ่อนแออยู่ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ซึ่งตลอด 6 ปีซื้อหุ้นสะสมกว่า 5 แสนล้านบาท จนแทบหมดกำลังซื้อแล้ว
ภาวะเศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มเกิดการถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนั้น สาธารณรัฐประชาชนจีนยังมีปัญหาหนี้เสียในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กระทบต่อเนื่องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งไทยที่จะเจอหางเลขจากการค้าและการส่งออกที่ซบเซาลง
และนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าจะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 8 ล้านคน อาจไม่เป็นไปตามเป้า เพราะเมื่อเศรษฐกิจจีนตกต่ำ ทำให้จำนวนนักท่องเทียวจีนลดลง
นักลงทุนไม่ควรมองแนวโน้มตลาดหุ้นในแง่ดีเกินไป อย่าคาดหวังการกลับมาของต่างชาติมากนัก เพราะมีปัจจัยตัวแปรรอบด้านที่อาจทำให้หุ้นซบเซาต่อเนื่อง หรือฟื้นตัวในกรอบแคบๆ โดยเฉพาะตัวแปรจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก
และกองหนุนสำคัญคือต่างชาติอาจยังไม่ขนเงินกลับมาลุยหุ้นอย่างเต็มตัว นักลงทุนจึงไม่ควรทุ่มน้ำหนักในหุ้นเต็มตัว เพราะมีความเสี่ยงเจ็บตัวซ้ำติดต่อเป็นปีที่ 2
แจนยัวรี่เอฟเฟกต์หรือหุ้นขึ้นในเดือนมกราคม คงไม่เกิดขึ้นแล้ว มีแต่สิ่งที่นักลงทุนต้องเฝ้าจับตาอย่างระมัดระวังคือ แรงขายต่างชาติที่ยังตกค้างจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะการขายในไตรมาสแรก
การทำเงินจากตลาดหุ้นปีที่ผ่านมาฝืดเคืองมาก แม้แต่เซียนหุ้นรายใหญ่ยังร้อง ส่วนปีมังกรบรรยากาศการลงทุนยังไม่ราบรื่นเสียทีเดียว
และหากฝรั่งไม่ยอมกลับมาจริงๆ เตรียมทำใจรับกับความเหงาล่วงหน้า
เพราะหุ้นคงฟื้นตัวอย่างแผ่วเบา ไปไหนไม่ไกล เป้า 1,700 จุดปลายปีคงไม่ได้เห็น