“บูทิค คอร์เปเรชั่น” กางแผนปี 2567 เดินหน้าเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมตั้งเป้ารายได้พุ่ง 25% ดันกำไรเป็นบวก ชูกลุ่ม Hospitality สัญญาณดี รับกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว ท่องเที่ยวหนุน โดยธุรกิจหลักด้านอสังหาฯ รุกก่อสร้างโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ย่านทำเลเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจุบันมีโรงแรมที่บริหารและดำเนินการแล้ว 10 แห่ง คึกคักรับไฮซีซัน ตั้งเป้าปีนี้เตรียมปิดดีลขายโครงการ 1-2 แห่ง
นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน หรือ BC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมในปี 2566 จะค่อนข้างท้าทาย บริษัทต้องเผชิญกับภาพรวมของสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ BC ได้ปรับกลยุทธ์ควบคู่บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกางแผนปี 2567 ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อนราว 25% นำโดยธุรกิจหลักด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ (Build) 2 แห่ง คือ โรงแรมในย่านสุขุมวิท ซอย 5 และที่กมลา จ.ภูเก็ต รวมมูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างวางแผนก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จในอีก 2-3 ปีจากนี้ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต อีกทั้งหลังจากพัฒนาโครงการสำเร็จแล้วจะเข้าสู่โมเดลบริหารกิจการเพื่อสร้างผลการดำเนินงานที่ดีสำหรับการขายโครงการในอนาคตตามแผนธุรกิจต่อไป
นอกจากนี้ ปัจจุบัน BC มีโรงแรมที่อยู่ระหว่างบริหารและดำเนินการ (Operate) รวมจำนวน 10 แห่ง พบว่า ในช่วงไตรมาส 4/2566 มีดีมานด์เพิ่มขึ้น ดันอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ขึ้นไปแตะระดับสูงถึง 90% โดยเฉลี่ย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี หรือภูเก็ต ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันมีเข้ามาในหลากหลายประเทศ ขณะที่ชาวอินเดียที่มีจำนวนเข้ามาพักมากขึ้นเป็นพิเศษ เป็นสัญญาณที่ดีของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ของบริษัทจะได้ปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวหนุนต่อเนื่องในปีนี้
ในปี 2566 ที่ผ่านมา ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ และดอกเบี้ยโลกปรับตัวขึ้น ส่งผลต่อการขายโครงการของกลุ่มบริษัท เนื่องจากนักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในอดีต ดังนั้น ทำให้ในปี 2566 ที่ผ่านมา แม้บริษัทจะมีเจรจาต่อรองกับผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่มีการชะลอการขายโครงการออกไปก่อน เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมตาม Yield ที่กำหนดไว้ และคาดปีนี้เห็นสัญญาณเชิงบวก ทิศทางดอกเบี้ยปรับตัวกลับมาในทางที่ดีขึ้น จึงตั้งเป้าจะสามารถขายโครงการได้ 1-2 โครงการ
สำหรับโครงการรีเทลของบริษัท โครงการซัมเมอร์พ้อยท์ สร้างการเติบโตอย่างโดดเด่น มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 94% ในช่วงไตรมาส 4/2566 โดยได้แรงหนุนหลักจากทีมบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งของบริษัท ระดับการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้นนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนให้สนใจซื้อโครงการนี้
อย่างไรก็ดี BC ได้ขยายกลุ่มธุรกิจกัญชาทางการแพทย์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง ณ สิ้นปีมี 12 สาขา วางเป้าหมายในปี 2567 เน้นเพิ่มยอดขายผ่านสาขาเดิมเป็นหลัก และเดินหน้าขยายสาขาใหม่ แต่จะเน้นทำเลที่มีทราฟฟิกสูง อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว และมีศักยภาพเติบโต ทั้งในรูปแบบหน้าร้าน รวมไปถึงรูปแบบ wholesalers ในทำเลศักยภาพ เช่น ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ และ Cafe Del Mar ภูเก็ต เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและแนะนำอย่างถูกต้อง ซึ่ง BC มีใบอนุญาตที่ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกขั้นตอน (Fully Licensed) ภายใต้แบรนด์ “KANA” หรือ “คณา”
สำหรับธุรกิจขนส่งและจัดเก็บสินค้าของส่วนตัว ภายใต้แบรนด์ “Go storage” เป็นโมเดลธุรกิจที่เข้ามาต่อยอด และเล็งเห็นการเติบโตได้สูง โดยปีนี้ยังมองหาทำเลเหมาะสมในการเปิดให้บริการเพิ่มเติม หลังได้รับการตอบรับที่ดี และเตรียมเปิดตัวธุรกิจอาหารเข้ามาเสริมการให้บริการให้แก่โรงแรมในเครือ ซึ่งมองว่ามีโอกาสเติบโตได้ดี
นายปรับ กล่าวทิ้งท้าย “BC เราไม่หยุดนิ่งที่จะมองหาโอกาสในการเติบโต และต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นราว 25% และกำไรฟื้นตัวกลับมาเป็นบวก ชูธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบ BOS ในทำเลที่ดียังคงเป็นธีมหลักที่เราให้ความสำคัญและเชี่ยวชาญ พร้อมกับการเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อหาโอกาสการเติบโตที่ยั่งยืน และจะสะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”