หุ้นไทยปิด +0.44 จุด โบรกฯ ชี้ดัชนีปรับขึ้นตอบรับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไปมากแล้ว เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้ไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนดัชนี แม้วันนี้ตลาดหุ้นแถลงข้อมูลการเทรดเพิ่ม แต่ไม่ได้ส่งผลสำคัญต่อตลาดหุ้น มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวรับที่ 1,400 จุด และแนวต้านที่ 1,425 จุด แนะจับตาตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3/66
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 พ.ย.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.44 จุด หรือ +0.03% โดยปิดตลาดที่ 1,415.78 จุด มูลค่าซื้อขาย 45,607.55 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวทรงตัว โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,422.68 จุด ในทิศทาลขาลงกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,406.21 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 297 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 176 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 166 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +518.04 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +186.93 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +97.15 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -802.12 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,375.57 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,878.09 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,670.48 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
4.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,449.13 ล้านบาท ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
5.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,246.87 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBG ปิดที่ 80.00 บาท เพิ่มขี้น 4.00บาท หรือ 5.26%
2.MEGA ปิดที่ 42.00บาท เพิ่มขี้น 1.25 บาท หรือ 3.07%
3.KBANK ปิดที่ 133.00บาท เพิ่มขี้น 1.00 บาท หรือ 0.76%
4.SCC ปิดที่ 291.00บาท เพิ่มขี้น 1.00บาท หรือ 0.34%
5.MTC ปิดที่ 43.75บาท เพิ่มขี้น 0.75บาท หรือ 1.74%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่ 158.50บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.86%
2.BH ปิดที่ 219.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.90%
3.HANA ปิดที่ 43.50บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 3.87%
4.DELTA ปิดที่ 81.25บาท ลดลง 1.75บาท หรือ 2.11%
5.KCE ปิดที่ 50.25บาท ลดลง 1.50บาท หรือ 2.90%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,938.27 จุด ลดลง -4.03 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 876.75 จุด ลดลง -2.25 จุด หรือ -0.26% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 402.44 จุด เพิ่มขึ้น 3.29 จุด หรือ 0.82%
นายวทัญ จิตสมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมวันนี้ค่อนข้างทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา หลังจากปรับขึ้นไปตอบรับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ขึ้นไปมากแล้ว เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์
ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยสนับสนุน แม้วันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะออกมาแถลงถึงการเปิดเผยข้อมูลการเทรดเพิ่มเติม แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นมากนัก
"แนวโน้มสัปดาห์หน้าจับตาการประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3/66 ในวันที่ 20 พ.ย.โดย Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.1%YoY รวมไปถึงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศทั้งส่งออกและนำเข้า เบื้องต้น ยังไม่ประกาศวันชัดเจน คาดว่าจะเป็นช่วงปลายสัปดาห์" นายวทัญ กล่าว
ส่วนคืนนี้รอติดตามยอดการสร้างบ้านใหม่และการใบขออนุญาตก่อสร้างของสหรัฐฯ ตลาดประเมินไว้ที่ 1.35 ล้านหลังคาเรือนและ 1.45 ล้านใบอนุญาต หากต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้น โดยมองมองกรอบวันจันทร์ไว้ที่แนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,425 จุด