หุ้นไทยปิดตลาด +29.13 จุด นักวิเคราะห์ชี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลังทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมในการประชุมกลางเดือน ธ.ค.นี้ โดยให้น้ำหนักมากถึง 99% ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แนวรับที่ 1,405 จุด และแนวต้านที่ 1,425 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 พ.ย. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +29.13 จุด หรือ +2.10% โดยปิดตลาดที่ 1,415.17 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 63,738.22 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,416.89 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,400.26 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 427 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 129 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 84 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -3,956.70 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,558.85 ล้านบาทบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +118.02 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +279.82 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,081.56 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,316.80 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,124.49 ล้านบาท ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,948.75 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,648.75 ล้านบาท ปิดที่ 98.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่84.25บาท เพิ่มขึ้น 5.75 บาทหรือ 7.32%
2.HANAปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาทหรือ 9.04%
3.CBG ปิดที่74.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาทหรือ 5.28%
4.MTC ปิดที่ 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75บาทหรือ 6.71%
5.KKPปิดที่ 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 5.08%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 218.00 บาท ลดลง 5.00 บาทหรือ 2.24%
2.BH ปิดที่225.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 0.88%
3.BBL ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.66%
4.AURA ปิดที่15.60 บาท ลดลง 0.30 บาทหรือ 1.89%
5.KTB ปิดที่ 18.40 บาท ลดลง 0.20 บาทหรือ 1.08%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,942.81 จุด เพิ่มขึ้น 42.21 จุด หรือ 2.22% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 878.86 จุด เพิ่มขึ้น 18.15 จุด หรือ 2.11% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 400.58 จุด เพิ่มขึ้น 12.73 จุด หรือ 3.28%
นายวทัญ จิตสมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย สาเหตุหลักมาจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในเดือน ต.ค. ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยให้น้ำหนักมากถึง 99% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมในการประชุมกลางเดือน ธ.ค.นี้ เป็นปัจจัยสะท้อนว่าการดำเนินนโยบายเข้มงวดได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ เช่น US bond yield ปรับลง Dollar Index อ่อนค่า และเงินบาทกลับมาแข็งค่า ประกอบกับรัฐบาลได้เตรียมให้การสนับสนุนการออกกองทุนใหม่เน้นลงทุนหุ้นไทยเป็นหลัก (TESG) แม้วงเงินจะไม่ได้สูงมากเพราะสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 1 แสนบาท/คน แต่ก็อย่างน้อยลดระยะเวลาถือครองน้อยกว่า SSF (SSF 10 ปี TESG 8 ปี) จึงมีความคาดหวังต่อเม็ดเงินที่จะเข้ามามากขึ้น
"แนวโน้มวันพรุ่งนี้ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,425 จุด โดยคืนนี้ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.1%MoM หากต่ำกว่าคาดการณ์จะยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น" นายวทัญ กล่าว
