หุ้นไทยปิดบวก +3.47 จุด นักวิเคราะห์ชี้ แรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก-ไฟแนนซ์-โรงไฟฟ้า เข้าหนุนหุ้นไทยช่วงบ่ายท้ายตลาดทำให้พลิกจากแดนลบขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกได้ หลังผลประกอบการไตรมาส 3/66 ออกมาดี มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ในแนวรับที่ 1,405 จุด และแนวต้านที่ 1,420 จุด แนะติดตามท่าทีของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการำหนดนโยบายดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 พ.ย. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +14.07 จุด หรือ -0.92% โดยปิดตลาดที่ 1,515.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,066.24 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีผันผวนสลับทั้งแดนบวกและลบ ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้าในช่วงท้ายตลาดและปิดตลาดในแดนบวก โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,417.16 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,406.95 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 273 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 185 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 185 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,548.69 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +985.30 ล้านบาทนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +511.59 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +51.80 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,284.05 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,429.21 ล้านบาท ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
3.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,336.99 ล้านบาท ปิดที่ 5.80 บาท ลดลง 0.25 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,259.63 ล้านบาท ปิดที่ 98.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,078.78 ล้านบาท ปิดที่ 133.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่299.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00บาท หรือ 2.05%
2.EGCO ปิดที่129.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 2.37%
3.ADVANC ปิดที่ 224.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาท หรือ 1.36%
4.CBG ปิดที่75.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 2.73%
5.THG ปิดที่ 63.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75บาท หรือ 2.85%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่249.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.19%
2.KCE ปิดที่53.00บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 4.50%
3.PTTEP ปิดที่160.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.53%
4.DELTA ปิดที่83.25บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.19%
5.AMATA ปิดที่23.50บาท ลดลง 0.80 บาท หรือ 3.29%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,933.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด หรือ 0.12% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 872.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด หรือ 0.10% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 402.14 จุด เพิ่มขึ้น 0.18 จุด หรือ 0.04%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวบวกขึ้นมาและยืนเหนือ 1,400 จุดได้แข็งแรงขึ้น จากแรงซื้อกลุ่มค้าปลีกหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/66 ออกมาค่อนข้างดี โดยเฉพาะ DOHOME จึงมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา รองลงมาเป็นกลุ่มไฟแนนซ์และกลุ่มโรงไฟฟ้าได้อานิสงส์บอนด์ยีลด์ปรับลง ขณะที่กลุ่มที่กดดันตลาดอยู่คือกลุ่มพลังงาน
ขณะที่ตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งบวกและลบ เนื่องจากเป็นช่วงประกาศผลประกอบการทำให้ทิศทางยังไม่ชัด รวมทั้งนักลงทุนยังรอติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้
"พรุ่งนี้ประเมินว่าดัชนีจะยังคงแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแนวรับที่ 1,405 จุด และแนวต้านที่ 1,420 จุด นักลงทุนควรติดตามการทยอยรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และในวันพรุ่งจะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของจีน หากออกมาดีก็จะส่งผลบวกกับตลาดทั้งภูมิภาค ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามความคืบหน้านโยบาย Digital wallet ซึ่งจะมีการแถลงในวันที่ 10 พ.ย." นายณัฐพล กล่าวทิ้งทาย