หุ้นไทยหมดแรงฮึดปิดบวกเพียง 0.17 จุด เหตุปัจจัยลบรอบด้านแม้สถานการณ์เงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอตัวลง ทำให้เกิดแรงเทขายออกมาทำกำไรในหุ้นกลุ่มใหญ่ เช่น ธนาคารพาณิชย์ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งยังมีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเข้ามากดดันดัชนีซ้ำ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,425 จุด และแนวรับที่ 1,410 จุดแนะติดตามผลการประชุมเอเปค และท่าทีผู้นำสหรัฐและจีนในการประชุม
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 16 พ.ย. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง +0.17 จุด หรือ +0.01% โดยปิดตลาดที่ 1,415.34 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขาย 43,028.30 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,417.20 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,407.79 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 215 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 185 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 247 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,615.42 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -14.75 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,055.15 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +575.02 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,888.38 ล้านบาท ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,832.84 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,563.68 ล้านบาท ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 3.00 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,309.24 ล้านบาท ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,120.11 ล้านบาท ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 3.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1..BGRIM ปิดที่ 25.50บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาทหรือ 3.66%
2.CBG ปิดที่ 76.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 1.67%
3.EA ปิดที่ 47.25บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.16%
4.TOP ปิดที่ 50.50บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาท หรือ 1.51%
5.STEC ปิดที่ 9.25บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 5.71 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 221.00บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 1.78%
2.SAWAD ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 6.42%
3.HANA ปิดที่ 45.25บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 6.22%
4.KCE ปิดที่ 51.75บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 2.36%
5.DELTA ปิดที่ 83.00บาท ลดลง 1.25บาท หรือ 1.48%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,942.30 จุด ลดลง -0.51 จุด หรือ -0.03% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 879.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.02% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 399.15 จุด ลดลง -1.43 จุด หรือ -0.36%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ หลังจากรับรู้ปัจจัยต่างๆไปค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะเงินเฟ้อสหรัฐที่รายงานออกมาชะลอตัวลง ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเข้ามากดดันดัชนีอีกด้วย
"หลังจากวานนี้ดัชนีขึ้นไปแรงวันนี้จึงพักตัวลงมาบ้าง แต่ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนช่วงท่ายตลาดทำให้ปิดบวกได้เล็กน้อย"
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในลักษณะพักตัวเช่นเดียวกัน ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ ตลาดยังรอติดตามในการประชุมเอเปค ซึ่งจะมีการพบกันของประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีจีน ต้องรอติดตามว่าจะมีท่าทีต่อกันอย่างไรโดยมองแนวต้านที่ 1,425 จุด และแนวรับ 1,410 จุด"นายชัยพร กล่าวทิ้งท้าย