SABUY จับ NAKED SHORT คามือ / สุนันท์ ศรีจันทรา

การมีอยู่จริงของรายการ NAKED SHORT หรือการขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือถูกปฏิเสธมาตลอด ทั้งจากผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ และผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์บางคน และยืนยันว่าการตรวจสอบไม่พบการกระทำความผิดใดๆ

แต่ผู้บริหารบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY กำลังนำหลักฐานชิ้นใหม่ เพื่อพิสูจน์การมีอยู่จริงของ NAKED SHORT และถ้าพิสูจน์ได้จะเป็นการเปิดโปง ขบวนการโกงนักลงทุนในประเทศครั้งใหญ่

รวมทั้งยืนยันถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในระบบตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์

ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์และผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่บางแห่งที่ออกมาปฏิเสธเหยงๆว่า ไม่มีการทำ NAKED SHORT จะเอาหน้าไปซุกที่ไหน

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นจะต้องพิสูจน์ข้อมูลที่ผู้บริหาร SABUY ส่งให้ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเป็นเบาะแสในการตรวจสอบเสียก่อน

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บิหาร SABUY ระบุว่า ได้พบหลักฐานการทำ NAKED SHORT ในหุ้น SABUY หลังจากปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบปริมาณหุ้น ซึ่งในระหว่างเดือนตุลาคมกับพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามีหุ้นจำนวนหนึ่งของผู้ถือหุ้นใหญ่หายไปประมาณ 20 ล้านหุ้น ทั้งที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายนี้ไม่ได้ปล่อยให้มีการยืมหุ้นแต่อย่างใด

หุ้นที่หายไปจำนวนประมาณ 20 ล้านหุ้น อาจถูกนำไปทำ NAKED SHORT ซึ่งฝ่ายกฎหมายของ SABUY เตรียมแจ้งความกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบสวนดำเนินคดีผู้กระทำผิด และสร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่ถือหุ้น SABUY

เบาะแสใหม่ล่าสุดที่จะเปิดโปงขบวนการ NAKED SHORT ตลาดหลักทรัพย์ต้องตรวจสอบคัสโตเดียน หรือผู้ดูแลรักษาทรัพย์สินว่า ได้ทำรายการให้ยืมหุ้นกับโบรกเกอร์รายใด มีสัญญายืมหุ้นหรือไม่ หุ้นที่ยืมมาจากไหน และหากหุ้น SABUY ที่ยืมมาไม่ได้เป็นของกองทุน หรือคัสโตเดียน มีการบันทึกเวลาหรือไทม์แสตมป์หรือไม่

มีคำถามว่า บริษัทโปรเกอร์ที่มีลูกค้าโปรแกรมเทรด หรือ ROBOT ได้ตรวจสอบหรือไม่ว่าคำสั่งขายหุ้นเป็นรายการ NAKED SHORT หรือไม่ และผู้บริหารโบรกเกอร์ที่อ้างว่า มีความมั่นใจในระบบตรวจสอบ ถ้าพิสูจน์ได้ว่า NAKED SHORT มีอยู่จริง จะต้องแสดงความรับผิดชอบจากการนำสิ่งไม่จริงมาพูด

ยังไม่สามารถปักใจเชื่อได้ทั้งหมดว่า หุ้น SABUY ถูก ROBOT โจมตีโดยการทำ NAKED SHORT แต่ขณะนี้มีเบาะแสที่นำไปสู่การตรวจสอบ สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว จากเจ้าของหุ้นที่ตรวจสอบการซื้อขายหมุนเวียนหุ้นของตัวเองจนพบความผิดปกติ

ตลาดหลักทรัพย์มีระบบการตรวจสอบ NAKED SHORT ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า การตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียน แต่การที่ผู้บริหาร SABUY พบความผิดปกติ เพราะใส่ใจ มีข้อสงสัย จึงเฝ้าติดตามข้อมูลการซื้อขายหุ้น ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนซื้อขาย จนพบหุ้น SABUY จำนวนประมาณ 20 ล้านหุ้น ซึ่งนำมาทุบขายโดยไม่รู้ที่มาจากแหล่งใด

ชนวนการขุดคุ้ยตรวจสอบ NAKED SHORT เริ่มต้นอีกครั้ง ท่ามกลางความสนใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดหุ้น

เพราะถ้าพิสูจน์ได้ว่า หุ้น SABUY ถูก ROBOT โจมตี โดยเล่นนอกกติกา ทำรายการ NAKED SHORT จะหมายถึงยังมีหุ้นตัวอื่นๆ อีกนับสิบนับร้อยตัวที่ถูกทำ NAKED SHORT เหมือนกัน

และถ้าพิสูจน์แล้วว่า NAKED SHORT มีอยู่จริง จะหมายถึงความล้มเหลวถึงขั้นล้มละลายในระบบการตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์

เพราะผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ยืนยันเสียงแข็งมาตลอดว่า ไม่มีรายการ NAKED SHORT แถมมีผู้บริหารโบรกเกอร์เป็นลูกคู่สนับสนุนอีกด้วย

กรณีของ SABUY อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบระบบ ROBOT ในตลาดหุ้นไทย

และอาจเป็นวาระสุดท้ายของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ที่ปกป้อง ROBOT มาตลอด

แม้ ROBOT กำลังทำให้ตลาดหุ้นไทยพังพินาศก็ตาม