“ภากร” ปิดฉากแล้ว...นักลงทุนสิ้นศรัทธา / สุนันท์ ศรีจันทรา

ตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเดินสายแถลงชี้แจงอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิเสธเสียงแข็งการทำ SHORT SELL หรือยืมหุ้นมาขายยังเป็นไปปกติ และไม่มีการทำ NAKED SHORT หรือการขายหุ้นโดยไม่มีหุ้นอยู่ในมือ

แต่ความพยายามของผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ในการกลบกระแสเรียกร้องของนักลงทุนให้ยกเลิก SHORT SELL และห้ามโปรแกรมเทรด หรือการซื้อขายด้วย ROBOT กลายเป็นการเหนื่อยเปล่า

เพราะนักลงทุนไม่เชื่อคำแถลงของนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

และไม่เชื่อว่าไม่มีการทำ NAKED SHORT

ล่าสุด พี่น้องตระกูลเหลืองนฤมิตชัย โดยคนหนึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายรีเสิร์ช บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด ส่วนอีกคนเป็นหัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ออกมาทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ตลาดหลักทรัพย์

ทั้งคู่เขียนบทความผ่านสื่อโซเชียล ประกาศว่าไม่ได้มีใบสั่งจากใคร แต่ร่ายยาวถึงประโยชน์ของ SHORT SELL และยืนยันไม่มีรายการ NAKED SHORT โดยทำตัวเป็นกระบอกเสียงแก้ต่างให้ตลาดหลักทรัพย์เต็มตัว

ทั้งที่น่าจะมีความละอายแก่ใจ เพราะทั้งสองพี่น้องทำงานอยู่ในองค์กรที่กำลังตกเป็นจำเลยร่วมของสังคม การออกมาแสดงจุดยืนหรือทัศนะใดๆ โดยเฉพาะการเอียงข้างปกป้ององค์กรตัวเอง ย่อมมีปัญหาความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ หรือความไม่เป็นกลาง จนไม่มีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว

ปัญหา SHORT SELL และ NAKED SHORT รวมทั้ง ROBOT ยังไม่ได้ข้อยุติใดๆ เพราะแม้ตลาดหลักทรัพย์จะยืนยันไม่พบความผิดปกติใดๆ ไม่ใช่ตัวการที่ทำให้หุ้นตก แต่นักลงทุนมองว่า ROBOT เป็นมหาวายร้ายที่ถล่มตลาดหุ้น และไม่ใช่เรื่องที่ “มโน” ขึ้นเอง

ถ้าผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการยุติปัญหา SHORT SELL และ NAKED SHORT ต้องการระงับข้อพิพาทกับนักลงทุน จะต้องหาข้อมูลหลักฐานที่หนักแน่น น่าเชื่อถือ สามารถทำให้นักลงทุนยอมรับได้ เช่น ตัวเลขผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายด้วย ROBOT ในช่วงประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา

หาก ROBOT ขาดทุน หรือได้กำไรเพียงเล็กน้อยนักลงทุนคงไม่ติดใจ โดยอาจยอมกราบขอขมา ROBOT และขอโทษผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าใจผิด

แต่ถ้า ROBOT โกยผลกำไรไปนับแสนล้านบาท สมมติฐานว่า ROBOT เป็นมหาวายร้ายที่เข้ามาปล้นเงินนักลงทุนไทยจะได้รับการพิสูจน์

หรืออีกแนวทางคือ การกำหนดให้กองทุนต่างชาติ และนักลงทุนต่างชาติ เมื่อซื้อหุ้นต้องนำหุ้นฝากไว้กับโบรกเกอร์ไทย เช่นเดียวกับนักลงทุนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนสถาบัน พอร์ตโบรกเกอร์และนักลงทุนรายย่อย เพื่อความเท่าเทียม ซึ่งจะหมดปัญหา NAKED SHORT โดยปริยาย

เพราะถ้าไม่มีหุ้นที่โบรกเกอร์ไทยจะไม่สามารถสั่งขายได้

และทางเลือกที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งการได้ทันทีคือ ตัดการเชื่อมต่อระบบระหว่าง ROBOT กับระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์โดยตรง ซึ่งทำให้ ROBOT ได้เปรียบนักลงทุนด้านความรวดเร็วในการส่งผ่านคำสั่งซื้อขาย

หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ยืนกระต่ายขาเดียวไม่เลิก SHORT SELL ไม่หยุด ROBOT แต่ไม่มีมาตรการใดมากระตุ้นตลาดหุ้น หรือเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน จนก่อชนวนแรงต่อต้านให้ลุกลาม และการรวมตัวแสดงพลังต่อต้าน โดยนัดหมายหยุดซื้อขายหุ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

กระแสความไม่พอใจของนักลงทุนคงไม่หยุดเพียงเท่านี้ ถ้าผู้บริหารตบลาดหลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนท่าที และไม่มีมาตรการใดมากระตุ้นตลาดหุ้น หรือลบล้างความเชื่อที่ว่า ROBOT คือตัวทำลายล้างรายย่อย

การต่อต้านของนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะยกระดับจากขับไล่ SHORT SELL และ ROBOT อาจพุ่งเป้าไปสู่การขับไล่ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์

นักลงทุนกำลังรู้สึกหมดศรัทธา “ภากร ปิตธวัชชัย” และหมดความชอบธรรมที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป