xs
xsm
sm
md
lg

“ตัวการ” ความวอดวายหุ้นใหม่ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นใหม่ที่เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้น 7 บริษัทล่าสุด และราคาหุ้นต่ำกว่าราคาจองหรือราคาที่เสนอขายให้นักลงทุนเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ 10% เศษจนเกือบ 40%

สร้างความเสียหายให้นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นนับหมื่นราย กลายเป็นแรงกดดันให้หน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดทุนต้องออกมาประกาศถึงแนวทางแก้ไข

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาชี้แจงถึงการหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแนวทางการสร้างความโปร่งใสในการจัดสรรหุ้นใหม่ เพื่อป้องกันนักลงทุนถูกเอารัดเอาเปรียบ

การให้บริษัทจดทะเบียนใหม่เปิดเผยข้อมูลรวดเร็วขึ้น เช่น ข้อมูล 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ การปรับปรุงข้อมูลให้ทันต่อสถานการณ์ การเปิดเผยข้อมูลทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง สามารถเข้าถึงและเข้าใจข้อมูล สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ง่ายและรวดเร็ว

แนวทางการแก้ปัญหาหุ้นใหม่ที่ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังปรึกษาหารือกันอยู่นั้นไม่มีการพูดถึงปัญหาราคาหุ้นใหม่ต่ำกว่าจองแต่อย่างใด

ไม่มีการพูดถึงแนวทางการป้องกันความเสียหายของประชาชนผู้ลงทุนที่จองซื้อหุ้นใหม่ และได้รับความเสียหายเพราะขาดทุนย่อยยับแต่อย่างใด

ปัญหาหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่เกิดขึ้นมายาวนานนับสิบๆ ปี ไม่ได้อยู่ที่ความโปร่งใสในการจัดสรรหุ้น แต่อยู่ที่ราคาหุ้นใหม่ โดยปัญหาสำคัญคือ เมื่อเข้ามาซื้อขายแล้ว ราคาหุ้นใหม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปในครั้งแรก

และการปั่นราคาหุ้นใหม่เมื่อเข้าซื้อขายในช่วงแรกๆ โดยหุ้นใหม่บางตัวถูกลากขึ้นจนราคาพุ่งชนเพดานสูงสุด 200% ในวันแรก ซึ่งมักเกิดขึ้นกับหุ้นใหม่ที่เข้าตลาด MAI กระตุ้นให้นักลงทุนตามแห่เข้ามาเก็งกำไร ก่อนที่จะมีการถล่มขายหุ้น จนแมลงเม่าตายเป็นเบือ

หุ้นใหม่ 7 ตัวล่าสุดที่ราคารูดต่ำจองยกคอก เริ่มตั้งแต่หุ้นบริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ WINDOW ซึ่งเข้าซื้อขายวันแรก 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาต่ำจอง 39.52% และตบท้ายด้วยหุ้นบริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE ซึ่งซื้อขายวันแรก 2 พฤศจิกายน ราคาต่ำจอง 15.24%

สิ่งที่นักลงทุนเรียกร้องคือ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาหุ้นใหม่ต่ำกว่าราคาจองได้ ทำอย่างไรจะป้องกันไม่ให้นักลงทุนถูกปล้นจากหุ้นใหม่ และทำอย่างไร ตลาดหลักทรัพย์จะไม่ปล่อยให้หุ้นเน่าเข้ามาสร้างความเสียหายให้ประชาชนที่ลงทุนในตลาดหุ้น

ไม่น่าเชื่อว่า การหารือระหว่าง ก.ล.ต.กับตลาดหลักทรัพย์ฯ กลับไม่มีวาระสำคัญที่มีกระแสเรียกร้องจากนักลงทุน

และไม่น่าเชื่อว่า ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาหุ้นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่แคบมาก ตีกรอบการแก้ปัญหาเพียงแค่การจัดสรรหุ้นที่โปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูลบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่รวดเร็วขึ้นเท่านั้น

แต่ไม่พูดถึงปัญหาหุ้นใหม่ต่ำจองแต่อย่างใด เหมือน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ปัญหา หรือหลีกเลี่ยงกับการเผชิญหน้ากับปัญหา

หุ้นใหม่ที่มีปัญหาราคาต่ำจองหรือการปั่นราคาหุ้นในช่วงแรกที่เข้ามาซื้อขาย ตัวการสำคัญคือบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งทำหน้าที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียน

บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินมุ่งแต่ผลประโยชน์ มุ่งแต่ตักตวงความมั่งคั่ง แก่งแย่งกันหารายได้จากหุ้นใหม่ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบหรือความเดือดร้อนของประชาชนผู้ลงทุนที่จองซื้อหุ้นใหม่

บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินส่วนใหญ่ เชี่ยวชาญในการแต่งตัวบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น แม้แต่หุ้นเน่าๆ ยังสามารถแต่งตัว ตบตาคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ นำหุ้นเข้าไปปล้นเงินนักลงทุนได้

และบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินบางแห่งครบเครื่องในข้อเสนอเพื่อดึงบริษัทใหม่เป็นลูกค้า โดยวางแผนดึงนักลงทุนขาใหญ่เข้าถือหุ้นในราคาต้นทุนต่ำ และร่วมกันสร้างราคาเมื่อหุ้นเข้าซื้อขาย

เจ้าของหุ้นใหม่ต้องการตั้งราคาขายหุ้นให้นักลงทุนในครั้งแรกเท่าไหร่ ขอให้บอกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน หรือต้องการปั่นราคาหุ้นในการซื้อขายวันแรกขึ้นไประดับไหน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินสามารถจัดให้ได้

นักลงทุนทั่วไปที่จองซื้อหุ้นไว้ หรือแห่เก็งกำไรเมื่อหุ้นเข้าซื้อขาย จะเดือดร้อนเสียหายขนาดไหน บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินไม่รู้สำนึก

ทั้งที่เป็นตัวการสำคัญในการส่งหุ้นใหม่เน่าๆ เข้ามาสร้างความเสียหายให้นักลงทุน แต่แทบไม่มีการพูดถึงบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินแต่อย่างใด ไม่มีเสียงเรียกร้องให้บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินต้องรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ลงทุน

และ ก.ล.ต.หรือตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ไม่เคยเรียกประชุมบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อกำหนดนโยบาย หรือกำชับให้รับผิดชอบต่อหน้าที่ หรือเรียกร้องให้ร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ประชาชนผู้ลงทุน

ไม่เคยมีบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินรายใดถูกลงโทษ หรือถูกขึ้นบัญชีดำ ทั้งที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ประชาชนผู้ลงทุนย่อยยับจากหุ้นใหม่

ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ กำลังเดินหลงทางเข้าป่าไปแล้ว สำหรับวิสัยทัศน์การแก้ปัญหาหุ้นใหม่

ไม่รู้ไปคลำอะไรอยู่ตรงไหน ไม่รู้ทำไมไม่แก้ปัญหาให้ตรงจุด ทำไมจึงไม่เรียกบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินมาอบรมบ่มเพาะพฤติกรรม ปลุกจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ลงทุนเสียบ้าง

เพราะถ้าบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินไม่หิวโหยกับการตักตวงผลประโยชน์มากเกินไป มีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อผู้ลงทุน

ปัญหาหุ้นใหม่เน่าๆ เข้ามาซื้อขายแล้วราคาต่ำกว่าจองคงไม่เกิดขึ้น เหมือนหุ้นใหม่ 7 ตัวล่าสุดที่ตายกันยกคอก








กำลังโหลดความคิดเห็น