xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนกังวลสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ แห่เทขายหุ้น กดดัชนีฯปิดดิ่ง -6.73 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดัชนีฯหุ้นไทยปิดตลาดร่วง -6.73 จุด โบรกฯเผย นักลงทุนกังวลสงครามความระหว่าง อิสราเอล-ปาเลสไตน์ จึงเทขายลดความเสี่ยง อีกทั้งจากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว ทำให้ให้ราคาพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่จะส่งผลเชิงลบกับกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น รวมทั้งส่งผลเชิงลบกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับตะวันออกกลาง มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,420 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,440 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ปรับตัวลดลง-6.73 จุด หรือ -0.47% โดยปิดตลาดที่ 1,431.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,468.30 ล้านบาท ขณะัที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งวันตั้งแต่เปปิดทำการซื้อขายภาคเช้า โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,435.79 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,423.17 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 136 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 121 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 385 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +2,963.20 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +182.15 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,584.41 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,560.94 ล้านบาท
 
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,130.82 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
2.JMT มูลค่าการซื้อขาย 3,227.35 ล้านบาท ปิดที่ 42.00 บาท ลดลง 4.25 บาท
3.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,846.57 ล้านบาท ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,248.19 ล้านบาท ปิดที่ 7.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
5.JMART มูลค่าการซื้อขาย 1,154.37 ล้านบาท ปิดที่ 22.00 บาท ลดลง 1.30 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่168.50บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาทหรือ 4.01%
2.EGCO ปิดที่120.50บาท เพิ่มขึ้น 3.00บาทหรือ 2.55%
3.TOP ปิดที่47.75บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 2.14%
4.CBG ปิดที่75.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 1.34%
5.SCC ปิดที่303.00บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 0.33%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่42.00 บาท ลดลง 4.25 บาทหรือ 9.19%
2.BH ปิดที่255.00บาท ลดลง 4.00บาทหรือ 1.54%
3.HANA ปิดที่57.50บาท ลดลง 3.25บาทหรือ 5.35%
4.KCE ปิดที่53.00บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 3.64%
5.EA ปิดที่47.25บาท ลดลง 1.75บาทหรือ 3.57%
 
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,949.43 จุด ลดลง -7.97 จุด หรือ -0.41% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 874.50 จุด ลดลง -2.45 จุด หรือ -0.28% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 423.19 จุด ลดลง -12.63 จุด หรือ -2.90%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสอดคล้องกับทิศทางตลาดภูมิภาค จากความกังวลการเกิดสงครามในอิสราเอล กดดันดัชนีหุ้นไทยวันนี้แต่มีกลุ่มพลังงานเข้ามาชดเชยส่งผลให้กรอบการปรับลงยังไม่ลึกมาก

ทั้งนี้จากสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวทำให้ให้ราคาพลังงานขึ้น จะส่งผลเชิงลบกับกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงความขัดแย้งดังกล่าวยังส่งผลต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความระมัดระวังในการท่องเที่ยวมากขึ้น และหุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับตะวันออกกลาง อาทิ กลุ่มการแพทย์ที่เคยได้ผลดีจากการเข้ามารักษาของตะวันออกกลางก็อาจจะได้รับ sentiment เชิงลบ

"แนวโน้มตลาดในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีรีบาวด์ โดยติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเป็นหลัก ให้กรอบแนวรับ 1,420 จุดและแนวต้าน 1,440 จุด" นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น