หุ้นไทยปิดร่วง -13.34 จุด ตำว้า 1500 จุด ลงไปอยู่ที่ 1,494.02 จุด โบรกฯเผยแรงเทขายจากนนักลงทุนต่างประเทศออกมากดดันต่อเนื่องหลัง จากค่าเงินบาทส่อแนวโน้มอ่อนค่าลง อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆมาช่วยหนุน ทำให้ดัชนีปิดตลาดหลุดระดับ 1,500 จุด มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,500 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,490 จุด แนะจับตาประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหรือไม่ จากปัจจุบันที่ 2.25%
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 26 กันยายน 2566 ปรับตัวลดลง -13.34 จุด หรือ -0.88% โดยปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด มูลค่าซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนแกว่งตัวในแดนบวกภาคเช้า ก่อนปรับตัวลงเคลื่อนไหวแดนลบในภาคบ่าย โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,514.90 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,494.02 จุด ทำจุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 88 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 118 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 440 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,698.29 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -788.62 ล้านบาทบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -871.98 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -37.68 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,023.46 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,676.04 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.SAV มูลค่าการซื้อขาย 2,261.59 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,250.68 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,022.14 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.14%
2.PTTEP ปิดที่168.50บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 1.20%
3.CBG ปิดที่82.25บาท ลดลง 1.25บาทหรือ 1.54%
4.BDMS ปิดที่27.25บาท ลดลง 0.50บาทหรือ 1.87%
5.CENTEL ปิดที่47.50บาท ลดลง 0.50บาทหรือ 1.06%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่162.50 บาท ลดลง 3.00บาทหรือ 1.81%
2.KBANK ปิดที่123.00บาท ลดลง 2.50 บาทหรือ 1.99%
3.EGCO ปิดที่121.50บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 1.62%
4.SCC ปิดที่303.00บาท ลดลง 2.00บาทหรือ 0.66%
5.FORTH ปิดที่29.50บาท ลดลง 1.75 บาทหรือ 5.60%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,043.27 จุด ลดลง -15.63 จุด หรือ -0.76% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 917.39 จุด ลดลง -6.11 จุด หรือ -0.66% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 453.01 จุด ลดลง -10.93 จุด หรือ -2.36%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน หลังจากปรับตัวขึ้นในช่วงภาคเช้ารับปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนส.ค.พลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 11 เดือน แต่เป็นปัจจัยบวกแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เพราะเจอแรงขายออกมากดดัน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องหลังจากค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่มาช่วยหนุน ทำให้ดัชนีปิดตลาดหลุดระดับ 1,500 จุด
ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และโรงไฟฟ้า ที่เข้ามากดดันดัชนี ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลงตามกันจากความกังวลทิศทางดอกเบี้ยในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (Bond Yield) ยังคงสูงกดดันตลาดหุ้น
"แนวโน้มพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหรือไม่ จากปัจจุบันที่ 2.25% โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,500 จุด และแนวรับที่ 1,490 จุด" นายชัยพร กล่าว