หุ้นไทย ปิดตลาดปรับตัวลดลงแรง -15.06 จุด นักวิเคราะห์เผยนักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนผลการประชุมเฟด อีกทั้งจากการที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนขายทำกำไร นอกจากนี้การที่นักลงทุนต่างชาติไม่เชื่อมั่นในนโยบายของรัฐบาลจากความไม่ชัดเจน มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,515 จุด และแนวรับที่ 1,500 จุด คาดมีโอกาสรีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้นๆ แต่ดัชนีอาจหลุดแนวแกว่งตัวลงมาต่อได้อีก
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 20 กันยายน 2566 ปรับตัวลดลง -15.06 จุด หรือ -0.99% โดยปิดตลาดที่ 1,507.90 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,490.73 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,521.66 จุด ในทางกลับกันลดลงต่ำสุด 1,503.33 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 91 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 161 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 395 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,089.32 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +402.40 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า
นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,253.45 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,238.27 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 3,338.24 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,817.76 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,424.31 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,326.56 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,292.04 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 128.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 0.79%
2.SCGP ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาท หรือ 0.65%
3. BBL ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.30%
4.BDMS ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.95%
5.BLA ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25บาท หรือ 0.92%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 221.00 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 1.78%
2.BH ปิดที่ 257.00 บาท ลดลง 4.00บาท หรือ 1.53%
3.PTTEP ปิดที่ 165.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.07%
4.SCC ปิดที่ 303.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.98%
5.CPALL ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.41%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,058.55 จุด ลดลง -21.96 จุด หรือ -1.06% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 924.16 จุด ลดลง -9.37 จุด หรือ -1.00% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 465.95 จุด ลดลง -6.82 จุด หรือ -1.44%
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเป็นภาพลบ นักลงทุนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งตลาดคาดเฟดจะคงดอกเบี้ยในรอบนี้ และติดตามสัญญาณว่าในการประชุมครั้งต่อไปเดือน พ.ย.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือคงดอกเบี้ย รวมทั้งราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ นักลงทุนขายทำกำไรส่งผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันถ่วงตลาดกดดันดัชนี
ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนต่างชาติไม่เชื่อมั่นในนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเนื่องจากความไม่ชัดเจนของแหฟล่งที่มาของเงินที่จะแจกในนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งนักลงทุนกังวลว่าจะเป็นการเพิ่มหนี้ให้ประเทศ และส่งผลต่อสถานะการคลังในประเทศที่อาจอ่อนแอ อีกทั้งกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียน ต่ำกว่า 90 บาท/หุ้น ทำให้เงินจากนักลงทุนต่างชาติไม่ไหลเข้าไทย
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีรีบาวด์ได้ระหว่างวันแต่เป็นการรีบาวด์ระยะสั้น หากเฟดไม่คุมเข้มการปรับอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะรีบาวด์ได้ และดัชนีแกว่งลงมาต่อ พร้อมทั้งให้แนวต้าน 1,515 จุด และแนวรับ 1,500 จุด