เจพีมอร์แกนเชื่อ SEC มีแนวโน้มถูกบีบให้อนุมัติใบสมัคร Spot Bitcoin ETF รวดเดียวทั้งหมด หลังแพ้คดีที่ถูกเกรย์สเกลฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กขานรับว่า มีโอกาส 75% ที่จะมีการจัดตั้ง Spot bitcoin ETF ภายในสิ้นปีนี้ และ 95% ภายในสิ้นปีหน้า
ในบันทึกที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.) นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนที่นำโดยนิโคลอส พานิเกอร์โซกลู บอกว่า ชัยชนะของเกรย์สเกลบ่งชี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) จำเป็นต้องเพิกถอนการอนุมัติ futures-based Bitcoin ETF ก่อนหน้านี้ทั้งหมด เพื่อปกป้องเหตุผลของตัวเองในการปฏิเสธคำร้องของเกรย์สเกลในการแปลงบิตคอยน์ทรัสต์เป็น ETF
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เกิดการชะงักงันและยิ่งทำให้ SEC ลำบากใจจึงดูเหมือนไม่น่าเป็นไปได้ แต่มีแนวโน้มมากกว่าที่ SEC จะจำใจอนุมัติคำร้องขอจดทะเบียน Spot Bitcoin ETF ทั้งหมดที่อยู่ในการพิจารณา ซึ่งยื่นโดยผู้จัดการสินทรัพย์หลายราย รวมถึงเกรย์สเกล
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่แล้วศาลอุทธรณ์ในวอชิงตัน ตัดสินให้เกรย์สเกลเป็นฝ่ายชนะ พร้อมสั่งให้ SEC เริ่มกระบวนการทบทวนคำขอของเกรย์สเกลอีกครั้ง
ศาลวินิจฉัยว่า SEC ไม่มีเหตุผลชอบธรรมในการอนุญาตการจดทะเบียน Bitcoin futures-based ETF แต่ปฏิเสธการจดทะเบียน spot Bitcoin ETF นอกจากนั้นการฉ้อโกงและปั่นราคาในตลาดบิตคอยน์สปอตมีความเสี่ยงทั้งต่อผลิตภัณฑ์ซื้อขายล่วงหน้าและซื้อขายทันที เนื่องจากตลาดสปอตและตลาด CME futures มีความเชื่อมโยงกันแนบแน่น
ดังนั้น การที่ SEC ปฏิเสธคำร้องของเกรย์สเกลจึงถือเป็นการกระทำตามอำเภอใจและไร้เหตุผล เนื่องจาก SEC ไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดจึงปฏิบัติต่างกันต่อผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกัน
ด้าน SEC ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับคำขอจดทะเบียน spot Bitcoin ETF ของบริษัทต่างๆ ซึ่งรวมถึงแบล็กร็อก ฟิเดลลิตี้ และอินเวสโก จนถึงกลางเดือนตุลาคมเป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนเชื่อว่า การเลื่อนการตัดสินใจบ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่ SEC อาจอนุมัติคำขอจดทะเบียน spot Bitcoin ETF ทั้งหมดพร้อมกัน แทนที่จะอนุมัติทีละรายแบบใครมาก่อนได้ก่อน ซึ่งจะส่งผลดีต่อนักลงทุนเนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันมากขึ้นในแง่ค่าธรรมเนียม ETF เช่น เกรย์สเกลมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันมากขึ้นให้ลดค่าธรรมเนียม ถ้าทรัสต์ของบริษัทได้รับอนุมัติให้แปลงเป็น spot Bitcoin ETF ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เบิร์นสไตน์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารความมั่งคั่ง คาดการณ์เช่นเดียวกันว่า ชัยชนะของเกรย์สเกลต่อ SEC จะปูทางสู่การอนุมัติ spot Bitcoin ETF พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นชัยชนะสำคัญครั้งที่สองของอุตสาหกรรมคริปโต หลังจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาศาลตัดสินว่า ริปเปิลไม่มีความผิดตามที่ SEC ฟ้องร้องว่า ละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางด้วยการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนคือเหรียญ XRP
เช่นเดียวกับอิริก บัลชูนัส และเจมส์ เซย์ฟาร์ต นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ที่มองว่า การชนะคดีของเกรย์สเกลจะทำให้มีโอกาส 75% ที่จะมีการจัดตั้ง Spot bitcoin ETF ภายในสิ้นปีนี้ และ 95% ภายในสิ้นปีหน้า
เจย์ เคลย์ตัน อดีตประธาน SEC เป็นอีกคนที่เชื่อว่า ที่สุดแล้วอเมริกาจะมี Spot bitcoin ETF
เคลย์ตันอธิบายว่า เห็นได้ชัดว่า บิตคอยน์ไม่ใช่หลักทรัพย์ และเป็นสิ่งที่ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนประเภทสถาบันต้องการเข้าถึง ที่สำคัญสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างแบล็กร็อก ฟิเดลลิตี้ และอาร์ก อินเวสต์ ยังต้องการนำเสนอ Spot bitcoin ETF ต่อนักลงทุนรายย่อย เขาจึงคิดว่า การอนุมัติผลิตภัณฑ์นี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป