AOT ไต่เพดานบินสู่นิวไฮ / สุนันท์ ศรีจันทรา

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มคืนสู่ความคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้นบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้ามาไล่ช้อนซื้อ ดักเก็งกำไรผลประกอบการที่ฟื้นตัวในปีนี้

แม้ AOT จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด แต่ราคาหุ้นกลับไม่ได้ปรับฐานลงรุนแรงมากนัก เพราะนักลงทุนมั่นใจว่า เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย นักท่องเที่ยวจะทยอยเดินทางมาประเทศไทย และทำให้ผลประกอบการ AOT เติบโตเหมือนเดิม

หุ้น AOT ไม่ได้ถูกทุบจนร่วงติดพื้นเหมือนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวโดยทั่วไป นักลงทุนสถาบันต่างชาติยังถือหุ้นไว้อย่างเหนียวแน่น รอการกลับมาของราคา ซึ่งเวลาแห่งการรอคอยใกล้มาถึงแล้ว

ราคาหุ้น AOT เคยพุ่งทะยานสูงสุดเกือบทะลุ 100 บาท ก่อนทรุดลงในช่วงวิกฤตโควิด และในรอบ 12 เดือน เคยลงไปต่ำสุดที่ 66 บาท สูงสุดที่ 76.50 บาท ล่าสุด วันอังคารที่ 29 สิงหาคมปิดที่ 73.25 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น 3,454.52 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุดประจำวัน

AOT ขาดทุนหนักหลายปีติดต่อจากผลกระทบโควิด โดยปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 16,322.014 ล้านบาท ปี 2565 ขาดทุน 11,087.87 ล้านบาท แต่งวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 5,358.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 9,755.32 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีหลังจะมีผลกำไรเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก

สถานการณ์ท่องเที่ยวมีแนวโน้มสดใส โดยยอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย จากต้นปีจนสิ้นสุดวันที่ 20 สิงหาคม มีจำนวนกว่า 17 ล้านคน และคาดว่านักท่องเที่ยวที่จะเข้าประเทศไทยในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวน 25 ล้านคน

นอกจากนั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวคึกคัก และสร้างอานิสงส์กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจึงได้รับความสนใจในช่วงนี้ โดย AOT เป็นผู้นำกลุ่มที่โดดเด่น

อย่างไรก็ตาม ค่าพี/อี เรโช หุ้น AOT อยู่ในระดับสูงมากคือ 259 เท่า เพียงแต่คาดหวังกันว่า ผลประกอบการที่เติบโตจะทำให้ค่าพี/อี เรโช ลดลง นักลงทุนจึงยอมซื้ออนาคต แม้ราคาหุ้นจะอยู่ในข่ายที่แพงไปหน่อยก็ตาม

โบรกเกอร์ 16 แห่ง ได้จัดทำบทวิเคราะห์หุ้น AOT ไว้ โดยส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อ และไม่มีโบรกเกอร์ใดแนะนำขาย ส่วนราคาเป้าหมายแตกต่างกันในแต่ละสำนัก โดยโบรกเกอร์บางแห่งกำหนดราคาเป้าหมายเพียง 72 บาท แต่บางแห่งตั้งราคาเป้าหมายไว้ที่ 92 บาท

แต่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ 16 โบรกเกอร์อยู่ที่ 83.37 บาท หรือสูงกว่าราคาบนกระดานล่าสุดประมาณ 10 บาท ซึ่งหมายถึงยังมีช่องว่างการทำกำไรจากหุ้นตัวนี้ได้อยู่

โครงสร้างผู้ถือหุ้น AOT ประกอบด้วยกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 70% ของทุนจดทะเบียน โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก เกือบทั้งหมดเป็นนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเพื่อการลงทุนระยะยาว ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย มีจำนวน 78,988 ราย

AOT จัดเป็นหุ้นยอดนิยม มีนักลงทุนฝากชะตากรรมไว้ร่วมแสนชีวิต การฟื้นคืนสู่ความสดใส ราคาหุ้นกำลังไต่ระดับใกล้ทะลุสร้างจุดสูงสุดใหม่ ทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นไว้รอคอยมีความคึกคัก

เพราะได้ลุ้นว่า AOT จะตีฝ่าจุดสูงสุดเดิมในรอบปีหรือไม่