xs
xsm
sm
md
lg

NEX มาแรงแซงกลุ่ม EA / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นในกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กลับสู่ความคึกคักรอบใหม่ ราคาทะยานขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้น บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซึ่งพุ่งขึ้นแรงกว่า 50% ในเวลาไม่ถึง 2 เดือน

หุ้นกลุ่ม EA ประกอบด้วย NEX และหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD โดยหุ้นทั้ง 3 บริษัทมักเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน และเคยทรุดหนักจนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 12 เดือนมาด้วยกัน ก่อนจะฟื้นตัวขึ้น

ราคาหุ้น EA สร้างจุดต่ำสุดที่ 51.50 บาท หุ้น BYD ลงไปต่ำสุดที่ 4.45 บาท และ NEX จุดต่ำสุดรอบนี้เกิดขึ้นระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยลงไปที่ 8.70 บาท แต่หลังจากนั้นดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง

ล่าสุด วันที่ 25 สิงหาคม EA ปิดที่ 65 บาท BYD ปิดที่ 8.55 บาท และ NEX ปิดที่ 13.10 บาท

ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน NEX ปรับตัวขึ้นจาก 8.70 บาท ขึ้นมาปิดที่ 13.10 บาท โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.40 บาท หรือปรับตัวขึ้น 50.57% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในอัตราใกล้เคียงกับ BYD

EA ในฐานะหุ้นตัวแม่ ราคาปรับตัวลงมาลึก ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวมที่ซบเซา จนราคาเริ่มจูงใจนักลงทุน ขณะที่แนวโน้มความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เมื่อบรรยากาศการลงทุนกระเตื้องขึ้น จึงมีแรงซื้อไหลกลับเข้าหุ้น EA

ขณะที่หุ้นตัวลูกคือ BYD และ NEX ได้รับแรงกระตุ้นจากหุ้นตัวแม่ นอกจากนั้น NEX ยังมีข่าวดีการทยอยส่งมอบรถโดยสารไฟฟ้า ทำให้มีรายได้เข้ามา ส่งผลให้กำไรปีนี้เติบโต นักลงทุนจึงแห่ช้อนหุ้นเก็บดักทำกำไร

ผลประกอบการ EA มีกำไรเติบโตต่อเนื่องหลายปีติดต่อ และงวด 6 เดือนแรกปีนี้กำไรเติบโตก้าวกระโดด จากกำไรสุทธิ 2,461.74 ล้านบาท ในงวด 6 เดือนแรกปี 2565 งวด 6 เดือนแรกปีนี้กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 4,480 ล้านบาท

BYD ยังไม่ได้แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปีนี้ แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกย่ำแย่ ขาดทุนสุทธิ 287.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 33.63 ล้านบาท แต่ราคาหุ้นกลับทะยานขึ้นตามกลุ่ม

ส่วน NEX ผลประกอบการกำลังฟื้นตัวจากขาดทุนหลายปีติดต่อ ปี 2565 พลิกมีกำไรสุทธิ 208.37 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 504.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 122.18 ล้านบาท

กลุ่ม EA มีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวมกันประมาณ 50,000 ราย โดย EA มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 29,433 ราย BYD มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 9,660 ราย และ NEX มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 11,818 ราย และจัดอยู่ในกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจ

ค่าพี/อี เรโชทั้ง EA และ NEX ลดลงมาก จากอดีต EA มีค่าพี/อี เรโช เฉียดร้อยเท่า ปัจจุบันเหลือเพียง 25 เท่า NEX ค่าพี/อี เรโช 31 เท่า ส่วน BYD ยังมีผลขาดทุน

NEX มีข่าวดีหนุนมาเป็นระยะ โดยเฉพาะการเร่งส่งมอบรถบัสไฟฟ้า และมีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการเติบโต นอกจากนั้น ยังได้รับแรงเชียร์จากโบรกเกอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อ โดยประมาณการราคาเป้าหมายอยู่ระหว่าง 13.50 บาท ถึง 18 บาท

ในรอบ 2 เดือน NEX เป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ราคาย่ำฐานอยู่แถว 9-10 บาทอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนทะยานขึ้น ทำให้นักลงทุนที่ช้อนเก็บไว้มีกำไรงามๆ

นักลงทุนจำนวนกว่า 5 หมื่นรายที่ถือหุ้นกลุ่ม EA ไว้ เริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้างแล้ว

และบางส่วนสมัครใจถือหุ้นต่อไป รอลุ้นแรงเหวี่ยงรอบขาขึ้นกลุ่ม EA ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีแรงไปได้อีกไกลขนาดไหน








กำลังโหลดความคิดเห็น