สินมั่นคงประกันภัย แจ้งความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เจ้าหนี้เคลมโควิดได้เงินคืน 15% ภายใน 1 ปี ที่เหลืออีก 85% ขณะบริษัทจัดสรรเป็นหุ้น พร้อมกำหนดระยะเวลาฟื้นฟูกิจการ 5 ปีเพื่อออกจากแผน
บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK แจ้งว่าตามที่บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ต่อมา ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และตั้งบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าในกระบวนการฟื้นฟูกิจการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ดังนี้
วันที่ 26 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ ในฐานะผู้ทำแผนได้ดำเนินการยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา 90/43 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงได้กำหนดวันนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนตามในมาตรา 90/44 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในวันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
- เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้จัดส่งประกาศนัดประชุมเจ้าหนี้ พร้อมแผนฟื้นฟูกิจการและเอกสารเกี่ยวกับการประชุมเจ้าหนี้ ให้แก่เจ้าหนี้ที่มีการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามที่อยู่อีเมล (Email Address) เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ และที่อยู่ทางไปรษณีย์ (ขึ้นอยู่กับช่องทางติดต่อที่สามารถจัดส่งได้) โดยเริ่มจัดส่งประกาศนัดประชุมเจ้าหนี้ ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 นี้
- สรุปแผนการชำระหนี้เจ้าหนี้โควิด จากแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ฉบับวันที่ 26 มิถุนายน 2566 มีจำนวนเจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ 295,320 ราย เป็นภาระหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นขอรับชำระหนี้จำนวน 29,273.52 ล้านบาท ผู้ทำแผนได้มีการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ตามลักษณะของภาระหนี้สินและประเภทของเจ้าหนี้ตามสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์ที่มีสาระสำคัญ
โดยแบ่งเจ้าหนี้เป็น 18 กลุ่ม เจ้าหนี้โควิดจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิด เจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ยังไม่ได้รับการชำระ) และกลุ่มที่ 3 (เจ้าหนี้ค่าสินไหมโควิดเจอจ่ายจบ และ 2 in 1 ที่ได้รับการชำระแล้วบางส่วน) สามารถสรุปแผนการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้โควิด ดังนี้
ส่วนที่ 1 เจ้าหนี้โควิดได้รับชำระด้วยเงินสด 15% ของหนี้เงินต้นพร้อมกัน ไม่เรียงตามลำดับก่อนหลัง (ตามคิว) ภายใน 45 วัน นับจากวันที่ได้รับเงินจากผู้ลงทุน หากบริษัทฯ ได้รับเงินจากผู้ลงทุนเพิ่มมากกว่าที่กำหนดไว้ จะนำมาชำระหนี้เพิ่มเติมให้เจ้าหนี้กลุ่ม 2 ทุกรายตามสัดส่วนภาระหนี้เงินต้น (Pro Rata basis)
ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงทุนจะชำระเงินภายใน 1 ปี นับจากวันที่ศาลเห็นชอบด้วยแผน หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จในภายระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่ใช่ความผิดของผู้บริหารแผน หรือหากผู้บริหารแผนเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมูลค่าได้สูงขึ้นกว่าจำนวนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ให้ผู้บริหารแผนสามารถขยายกรอบระยะเวลาออกไปได้ แต่ทั้งนี้ ไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันครบกำหนดเดิม
ส่วนที่ 2 เจ้าหนี้โควิดได้รับชำระหนี้ด้วยหุ้นบุริมสิทธิ 85% ของหนี้เงินต้นส่วนที่เหลือ ภายใน 60 วัน นับจากวันที่ได้รับเงินจากผู้ลงทุน (โดยหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิที่จะได้รับเงินปันผลพิเศษจากการฟ้องร้องคดีปกครอง) หากบริษัทฯ ชนะคดีปกครอง ดังนั้น เงินที่อาจได้รับจากการชนะคดี (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีในศาลปกครองดังกล่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบแผน ตามจำนวนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงและภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตลอดจนชดเชยเงินขาดทุนสะสม (หากมี)) จะถูกนำมาจัดสรรในรูปแบบเงินปันผลพิเศษให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิตามสัดส่วนจำนวนหุ้นบุริมสิทธิของผู้ถือหุ้นแต่ละราย โดยให้จัดสรรให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากการชนะคดีปกครองดังกล่าว แต่ทั้งนี้ไม่เกินจำนวน 1,000 บาทต่อ 1 หุ้นบุริมสิทธิ
ผลสำเร็จของแผน
การดำเนินการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ให้ถือว่าเป็นผลสำเร็จตามแผน เมื่อผู้บริหารแผนได้ดำเนินการตามเงื่อนไขหรือจัดให้มีการดำเนินการดังต่อไปนี้ครบถ้วน
1) ดำเนินการปรับโครงสร้างทุนและแปลงหนี้ป็นหุ้นบุริมสิทธิ ตามที่กำหนดไว้ในแผน และ
2) ดำเนินการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้กลุ่มที่ 2, 3, 4, 5, 10, 11, 17 และ 18 ได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแผน
เมื่อการดำเนินการฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จตามแผนแล้ว ให้ผู้บริหารแผนยื่นคำร้องต่อศาล และ/หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นลายลักษณ์อักษรว่าการดำเนินการตามแผนได้สำเร็จครบถ้วนแล้ว เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการต่อไป
ระยะเวลาดำเนินการตามแผนซึ่งไม่เกิน 5 ปี
การดำเนินการตามแผนมีระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผน ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ล้มละลาย
การแต่งตั้งผู้บริหารแผน
สำหรับแผนกำหนดให้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้ เป็นผู้บริหารแผน ขั้นตอนภายหลังการยื่นแผน ภายหลังจากผู้ทำแผนยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลางจะพิจารณาคำสั่ง เห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผน และผู้บริหารแผนจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าใดๆ ในการฟื้นฟูกิจการ รวมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป