นายอนุรักษ์ นิยมเวช
กรรมการผู้จัดการบริษัท กฎหมายธุรกิจอนุรักษ์ จำกัด
anurak@anurakbusinesslaw.com
บุคคลธรรมดาที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวและเป็นหนี้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท อาจถูกเจ้าหนี้ฟ้องต่อศาลขอให้ล้มละลาย ซึ่งอาจนำไปสู่การที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ และพิพากษาให้ลูกหนี้ตกเป็นบุคคลล้มละลายในท้ายที่สุด
เมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือตกเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว ลูกหนี้จะไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตน โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวจะเข้ามามีอำนาจแทนลูกหนี้ในการจัดการและจำหน่ายทรัพย์ของลูกหนี้ เก็บรวบรวมและรับทรัพย์สินของลูกหนี้ ตลอดจนฟ้องร้องหรือต่อสู่คดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ในศาล ทั้งนี้ก็เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำกองทรัพย์สินของลูกหนี้ไปชำระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม กฎหมายได้ให้โอกาสบุคคลล้มละลายที่จะหลุดพ้นจากสภาวะการเป็นบุคคลล้มละลายและหนี้สินโดยไม่ต้องชำระหนี้ครบถ้วนได้ด้วยกลไกหรือเงื่อนไขโดยอัตโนมัติที่กฎหมายล้มละลายกำหนดไว้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการปลดจากการล้มละลายเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา กล่าวคือ บุคคลธรรมดาซึ่งศาลพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว จะได้รับการปลดจากการล้มละลายทันทีที่พ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลาย แต่ทั้งนี้
(1)หากบุคคลนั้นเคยถูกพิพากษาให้ล้มละลายมาก่อนแล้ว และยังไม่พ้นระยะเวลา 5 ปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษาให้ล้มละลายครั้งก่อนจนถึงวันที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ครั้งหลัง ให้ขยายระยะเวลา ดังกล่าวข้างต้นเป็น 5 ปี
(2)หากบุคคลนั้นเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นเป็น 10 ปี
(3)หากบุคคลนั้นเป็น “บุคคลล้มละลายทุจริต” ที่ไม่มีลักษณะตาม (2) ข้างต้น ให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวข้างต้นเป็น 10 ปี เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุผลพิเศษและบุคคลนั้นถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ศาลอาจสั่งปลดจากล้มละลายก่อนกำหนด 10 ปี ตามคำขอของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือของบุคคลล้มละลายก็ได้
“บุคคลล้มละลายทุจริต” ดังกล่าวข้างต้น หมายถึง บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดในฐานต่างๆ ตามกฎหมายล้มละลาย เช่น ปกปิดหรือให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของตนต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ฯลฯ หรือเป็นบุคคลล้มละลายอันเนื่องมาจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดฐานยักยอกหรือฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
การปลดจากการล้มละลายในกรณีนี้มีผลเมื่อครบกำหนดระยะเวลาโดยไม่ต้องให้ศาลมีคำสั่ง และมีผลให้ลูกหนี้กลับมามีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินของตนซึ่งได้มานับแต่วันที่ได้รับการปลดจากล้มละลาย ทั้งยังทำให้ลูกหนี้หลุดพ้นจากหนี้อันพึงขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ (หนี้เดิม) เว้นแต่หนี้เกี่ยวกับภาษีอากร หรือหนี้ซึ่งได้เกิดขึ้นโดยความทุจริตฉ้อโกงของบุคคลล้มละลายหรือหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ไม่ได้เรียกร้องเนื่องจากความทุจริตฉ้อโกงซึ่งบุคคลล้มละลายมีส่วนเกี่ยวข้องสมรู้
กล่าวโดยสรุปแล้ว บุคคลธรรมดาที่เป็นบุคคลล้มละลายที่ไม่ได้เป็นบุคคลล้มละลายทุจริตและไม่ได้กระทำการใดอันเป็นความผิดหรือหลีกเลี่ยงกระบวนการตามกฎหมายล้มละลาย ก็จะได้รับโอกาสฟื้นตัวจากสถานะล้มละลายและกลับมาจัดการทรัพย์สินและกิจการของตัวเองได้โดยอัตโนมัติเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ศาลได้พิพากษาให้ล้มละลาย