พบกองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดีส่งอีเมลนัดประชุมลูกค้าประกันโควิดแบบเจอ-จ่าย-จบ ของสินมั่นคงประกันภัยที่ยังไม่ได้เงิน ถกแผนฟื้นฟูกิจการ 27 ก.ย.นี้ พบเสนอชำระด้วยเงินสด 15% ของทุนประกัน มีหนึ่งแสนจ่ายหมื่นห้า ส่วนที่เหลือ 85% แปลงเป็นหุ้นบุริมสิทธิ หวังได้รับมากกว่าล้มละลาย
วันนี้ (14 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า กองฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี ได้ส่งอีเมลไปยังลูกค้าประกันภัยโควิดแบบเจอ-จ่าย-จบ ของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่ยังไม่ได้รับเงิน ในฐานะเจ้าหนี้ หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 ให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ และแต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นผู้ทำแผน โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้ทำแผนได้นำส่งแผนต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงได้กำหนดวันนัดประชุมเจ้าหนี้ (ลูกค้าที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย) เพื่อพิจารณาแผน ในวันที่ 27 ก.ย. เพื่อปรึกษาว่าจะยอมรับคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูของผู้ทำแผนหรือของเจ้าหนี้ (หากมี) หรือไม่ จะยอมรับแผนของผู้ทำแผนที่นำส่ง หรือแผนที่มีการแก้ไขหรือไม่ รวมทั้งเลือกตั้งคณะกรรมการเจ้าหนี้ จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 7 คน
ทั้งนี้ เจ้าหนี้ (หมายถึงลูกค้าประกันโควิด) ที่มีสิทธิออกเสียงจะต้องเป็นเจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการภายในกำหนดเวลา โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ส่งลิงก์ (Link) เพื่อลงทะเบียน และ Passcode สำหรับการลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมและการลงมติ เฉพาะของเจ้าหนี้แต่ละราย โดยจะต้องลงทะเบียนภายในวันที่ 23 ก.ย. และจะได้รับลิงก์เพื่อเข้าร่วมประชุมตามอีเมลที่ได้ลงทะเบียนต่อไป หากไม่สะดวกหรือไม่สามารถเข้าร่วมประชุม แต่ประสงค์จะออกเสียงลงคะแนน สามารถกรอกคำร้องขอลงมติล่วงหน้าตามแบบฟอร์มที่แนบมา พร้อมทั้งลงนามในแบบฟอร์มและแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องแล้วส่งทางไปรษณีย์ ภายในวันที่ 20 ก.ย.ที่จะถึงนี้
สำหรับแผนการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ (กลุ่ม 2 และ 3) ภายหลังที่เจ้าหนี้มีมติยอมรับแผน และศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน พบว่า เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ได้รับชำระด้วยเงินสด ในอัตราร้อยละ 15 ของหนี้เงินต้น (ทุนประกัน) ภายใน 45 วัน นับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากนักลงทุน เช่น ทุนประกัน 1 แสนบาท จ่าย 15,000 บาท ส่วนที่ 2 ได้รับชำระด้วยการแปลงหนี้เป็นหุ้นบุริมสิทธิ (ชนิดไม่สามารถไถ่ถอนได้และชนิดไม่สะสมเงินปันผล แต่มีสิทธิออกเสียงและได้รับเงินปันผลเท่ากับหุ้นสามัญ) ในอัตราร้อยละ 85 ของหนี้เงินต้น (ทุนประกัน) ที่เหลือจากการชำระด้วยเงินสด ภายใน 60 วัน นับจากวันที่บริษัทฯ ได้รับเงินจากนักลงทุน ในอัตราเงินต้น 1,000 บาท ต่อ 1 หุ้นบุริมสิทธิ โดยกำหนดเวลาอย่างช้าที่นักลงทุนจะชำระเงินไม่เกิน 1 ปี นับจากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน ซึ่งหากดำเนินการเป็นผลสำเร็จตามแผน เจ้าหนี้ (ลูกค้า) ทุกรายจะได้รับชำระหนี้มากกว่ากรณีบริษัทฯ ล้มละลาย
