หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเงียบหายไปพักใหญ่ ราคาดิ่งลงถ้วนหน้า แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา พุ่งทะยานขึ้นมาอย่างร้อนแรงยกแผง โดยเฉพาะหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่ดีดตัวขึ้นอย่างโดดเด่น
ช่วงที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ารุ่งเรือง เป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม EA เคยพุ่งขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 105.50 บาท หลังจากนั้นปรับฐานลง และเพิ่งสร้างจุดต่ำสุดรอบหลายปีที่ 51.50 บาท เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนประคับประคองตัวในระดับ 50 บาทเศษ
แต่เมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนวันหยุดยาว มีแรงซื้อไหลทะลักเข้าในในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมทั้ง EA ซึ่งวิ่งแรงที่สุดในกลุ่ม ก่อนจะปิดลงที่ราคา 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.13% มูลค่าซื้อขาย 1,666.91 ล้านบาท
การฟื้นตัวของ EA ส่งผลต่อเนื่องถึงบริษัทลูกทั้ง 2 แห่งคือ หุ้นบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ซึ่งพุ่งขึ้นในทิศทางเดียวกัน โดยปิดการซื้อขายที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือเพิ่มขึ้น 10.31% และหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ซึ่งราคาปิดที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 90 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 15.38%
ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม EA ไม่มีข่าวดีกระตุ้นมากนัก ราคาหุ้นจึงซึมลงตามภาวะตลาด และยังถูกปัจจัยลบซ้ำเติมจากเหตุการณ์เรือไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งรถโดยสารไฟไหม้ และถูกกดดันจากนโยบายปฏิรูปด้านพลังงานของพรรคก้าวไกล ทำให้หลังการเลือกตั้ง หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าทรุดลงมาทั้งแผง
รวมทั้ง EA ซึ่งไม่ได้ลงเพียงตัวเดียว แต่ฉุดหุ้นลูกทั้ง 2 บริษัททรุดตามมาด้วย และราคาลงลึกไม่แพ้หุ้นตัวแม่ โดย NEX ลงไปต่ำสุดที่ 8.70 บาท ส่วน BYD ลงไปต่ำสุดที่ 5.45 บาท
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาลงมายาวนาน กลายเป็นหุ้นที่ถูกเมิน แม้จะมีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์หลายสำนัก เริ่มกลับมาให้คำแนะนำช้อนซื้อ แต่ราคาไม่ขยับ จนมีแรงจุดพลุเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งน่าจะเกิดจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศ ทำให้นักลงทุนรายย่อยตามแห่เข้าไปไล่ซื้อตาม
ในไตรมาสแรกปีนี้ EA มีผลประกอบการที่ดี โดยกำไรสุทธิ 2,319.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,366.31 ล้านบาท แต่ผลประกอบการที่ดีไม่ได้ช่วยสนับสนุนราคาหุ้นแต่อย่างใด โดยราคายังไหลลงต่อเนื่อง และลงต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดที่ 105.50 บาท
ค่าพี/อี เรโช EA อยู่ที่ประมาณ 26 เท่า ซึ่งลดลงมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ค่าพี/อี เรโช พุ่งไปเกือบ 100 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 0.5% ซึ่งถือว่าต่ำ เพียงแต่นักลงทุนตั้งความคาดหวังกับแนวโน้มการเติบโต จึงเข้ามาซื้อผลประกอบการในอนาคต
EA เป็นหุ้นโรงไฟฟ้ายอดนิยมอันดับต้นๆ โดยมีนักลงทุนรายย่อยถือหุ้นจำนวน 29,433 ราย ซึ่งเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่ เพราะได้ลุ้นการกลับมาของ EA และก้าวสู่ขาขึ้นรอบใหม่
10 โบรกเกอร์ได้ออกบทวิเคราะห์ ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น EA โดยราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 82 บาท แต่บางโบรกเกอร์ประเมินราคาต่ำสุดที่ 64 บาท และบางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 108 บาท
อย่างไรก็ตาม ราคาปิดล่าสุด EA ยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ตั้งไว้ เพดานบนของราคาหุ้นจึงยังเปิดอยู่
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าตื่นจากหลับใหลแล้ว รวมทัง EA เพียงแต่รอบนี้จะมีแรงวิ่งไปไกลขนาดไหนเท่านั้น