หลังปฏิบัติการปล้นดื้อๆ โกงกันหน้าด้านๆ ในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เลวร้าย สร้างความเสียหายให้ประชาชนผู้ลงทุนในวงกว้าง ได้จุดชนวนการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตามมา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โศกนาฏกรรมหุ้น STARK ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้น ถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักหน่วง
เพราะต้นเหตุสำคัญแห่งหายนะของ STARK เกิดจากความหละหลวม ผิดพลาดและล้มเหลวในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน การขาดมาตรการที่เด็ดขาดฉับไวในการแก้วิกฤตหุ้นรายบริษัท และมาตรการปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ผู้ลงทุนที่ไร้ประสิทธิภาพ
การทบทวนการทำงานที่ผิดพลาดล้มเหลว ยังไม่เป็นที่ประจักษ์มากนัก สำหรับ ก.ล.ต. ซึ่งอาจเป็นเพราะอยู่ระหว่างรอยต่อการแต่งตั้งเลขาธิการ ก.ล.ต.คนใหม่ ซึ่งมีการร้องเรียนคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับคัดเลือกและเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่ง ทำให้กลไกการทำงานสะดุด
แต่ตลาดหลักทรัพย์ได้ยกเครื่องการทำงานครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่การปรับหลักเกณฑ์คุณสมบัติบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และตลาด MAI การรับบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่มีความเข้มแข็งด้านฐานะการเงินและการดำเนินงาน การเพิ่มกำไรและเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งยกระดับการกำกับดูแลให้เข้มข้นขึ้น
นอกจากนั้น ยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) และการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน (Public Offering) สำหรับบริษัทขนาดเล็กให้สูงขึ้น การเพิ่มการเตือนเครื่องหมาย C กรณีบริษัทมีฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มลดลง ผิดนัดชำระหนี้ และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินในทุกกรณี
และเพิ่มความเข้มงวดในการเพิกถอนบริษัทจดทะเบียน เพิ่มความเข้มงวดในการพิจารณาคุณสมบัติบริษัทที่เข้าจดทะเบียนทางอ้อม โดย ก.ล.ต. จะร่วมพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทเช่นเดียวกับกรณี IPO เพื่อให้บริษัทที่เข้าจดทะเบียนไม่ว่าด้วยช่องทางใดมีคุณภาพใกล้เคียงกัน
ตลาดหลักทรัพย์ยังได้ออกคำเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหุ้นใหม่ โดยบริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN เป็นหุ้นน้องใหม่ตัวแรกที่สังเวยมาตรการใหม่ ถูกประกาศเตือนหลังเข้าซื้อขายตลาด MAI ได้เพียงวันเดียว จนราคาหุ้นดิ่งลงติดฟลอร์ 2 วันซ้อน
มีการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่ราคาและปริมาณการซื้อขายผิดปกติในทันที ซึ่งหุ้นบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO ถูกตรวจสอบการซื้อขายสังเวยเป็นตัวแรก
และรายงานผลการตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายว่า มีการกระจุกตัวหรือกระจายตัว รวมทั้งรายการช็อตเซล สัดส่วนการซื้อขายในด้วยโปรแกรมหรือ AI เพื่อให้นักลงทุนใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจ
ตลาดหลักทรัพย์ได้ปฏิรูปกลไกการทำง่านใน 3 ประเด็นหลักคือ การปรับกฎเกณฑ์การพิจารณารับหุ้นใหม่ การตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติจากสภาพตลาด และรายงานข้อมูลผลการตรวจสอบให้นักลงทุนทรายในทันที รวมทั้งการประกาศเตือนหุ้นใหม่ที่เข้าซื้อขายที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง
การทบทวนและปรับหลักเกณฑ์การพิจารณารับบริษัทจดทะเบียนใหม่เป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ เพราะการเพิ่มเกณฑ์การรับหุ้นใหม่ที่มีความเข้มแข็งด้านฐานะการเงินและการดำเนินมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนรายย่อยหรือฟรีโฟลท และสัดส่วนการเสนอขายให้ประชาชนเป็นครั่งแรก เป็นการกลั่นกรองคุณภาพหุ้นใหม่ตั้งแต่ด่านแรก
ป้องกันไม่ให้หุ้นที่มีฐานะทางการเงินเปราะบาง ผลการดำเนินงานไม่แข็งแรงเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนตกอยู่ในความเสี่ยงการลงทุนหุ้นใหม่
การเร่งตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ และรายงานข้อมูลผลการตรวจสอบให้นักลงทุนทราบในทันที ถือเป็นปฏิบัติการในเชิงรุก ในการปกป้องนักลงทุน ไม่ให้เกิดความเสียหายจากการแห่เก็งกำไรหุ้นที่มีความผิดปกติ เพราะมีข้อมูลการซื้อขายที่นำไปประกอบการตัดสินใจว่าควรจะลงทุนหุ้นที่มีความผิดปกติตัวใดหรือไม่
และการเตือนให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้นใหม่ที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง จะช่วยให้นักลงทุนได้ยับยั้งชั่งใจการตามแห่เก็งกำไรหุ้นใหม่ ซึ่งหุ้นใหม่หลายตัวราคาพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในวันแรกๆ หรืออาจพุ่งขึ้นชนเพดานสูงสุด 200% ก่อนถูกถล่มขายในวันต่อๆ มา จนราคาต่ำกว่าราคาจองหรือราคาที่เสนอขายนักลงทุนก่อนเข้าตลาด
ตลาดหลักทรัพย์ตื่นจากหลับใหลแล้ว และกำลังปฏิวัติการทำงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 48 ปี นับจากก่อตั้งตลาดหุ้น และคงมีปรับมาตรการอื่นตามมา เพื่อให้การกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนมีความเข้มข้น และมีความกระฉับกระเฉงรวดเร็วในการตรวจสอบ หรือแก้ไขหุ้นที่มีความเคลื่อนไหวร้อนแรงผิดปกติ เพื่อคุ้มครองป้องกันประชาชนไม่ให้เกิดความเสียหายจากการลงทุน
ผู้บริหารตระหนักแล้วว่า จะต้องป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมหุ้น STARK เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก
เพียงแต่ว่ายังไม่มีหลักประกันที่สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่า การโกงดื้อๆ หน้าด้านๆ อย่างหุ้น STARK จะไม่เกิดขึ้นอีกเท่านั้น