หุ้นบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO มีประวัติโชกโชน ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายนับครั้งไม่ถ้วน แต่นักเก็งกำไรไม่ได้ให้ความสำคัญกับสัญญาณเตือนภัยของตลาดหลักทรัพย์ สุดท้ายต้องเสียหาย เช่นเดียวกับหุ้นปั่นตัวอื่นที่ถูกใข้มาตรการกำกับการซื้อขายบ่อยครั้ง
แม้วันนี้ยังไม่รู้ว่า OTO ซุกอะไรไว้ใต้พรม เหมือนหุ้น STARK หรือไม่ แต่ราคาที่ถูกถล่มจนย่อยยับ จากไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าที่ลากขึ้นไป 24.40 บาท ก่อนถูกทุบจนรูดเหลือเพียง 2.68 บาท เบื้องหลังมีเพียง 2 ประเด็นเท่านั่นคือ ฐานะของบริษัทย่ำแย่
หรืออาจมีเจ้ามือ และนักลงทุนรายใหญ่อยู่เบื้องหลัง ทั้งการลากและทุบราคาหุ้น OTO
และการลากราคาไม่เพียงแค่การปั่นหุ้น OTO เท่านั้น แต่อาจหวังผลการล่อให้นักลงทุนที่ถือวอร์แรนต์ นำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพเพื่อสูบเงินเข้าบริษัทก้อนโตประมาณ 700 ล้านบาทอีกด้วย
ทำไมจึงเกิดการถล่มหุ้น OTO ก่อนหุ้นเพิ่มทุนที่เกิดจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์จำนวน 233 ล้านหุ้น จะเข้าซื้อขายเพียงไม่กี่วัน เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่ทิ้งวอร์แรนต์ไปหมดมือแล้ว และชิงจังหวะทิ้งหุ้น โกยกำไรรอบสุดท้าย
เพราะถ้ารอให้หุ้นเพิ่มทุนจำนวน 233 หุ้นเข้าซื้อขาย ราคาหุ้นจะต้องปรับตัวลง นักลงทุนรายย่อยจะมีโอกาสขายหุ้นทำกำไรงามๆ และทำให้เจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่เสียโอกาสขายหุ้นในราคาสูง
ผู้บริหาร OTO ดูเหมือนจะมีความเป็นห่วงเป็นใยนักลงทุน เรียกประชุมด่วนคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผานมา และออกมาเรียกความมั่นใจนักลงทุน ยืนยันว่า ฐานะบริษัทยังมั่นคง และราคาหุ้นที่ทรุดหนัก ไม่กระทบต่อการดำเนินงาน ซึ่งฟังแล้วดูดี
แต่ราคาหุ้นที่ทรุดหนักเกิดจากนักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นในฐานะบริษัทและผลการดำเนินงานแล้ว
ส่วนแผนการเพิ่มทุนอีก 50 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนวงจำกัด 4 ราย ในราคาหุ้นละ 16 บาท รวมเงิน 800 ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการ OTO เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องล้มพับแน่ๆ เพราะคงไม่มีใครบ้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนราคา 16 บาท เมื่อราคาหุ้นในกระดานลงมาต่ำกว่า 3 บาท
ไม่มีใครรู้เหมือนกันว่าการออกหุ้นเพิ่มทุน ขายในราคา 16 บาท เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างธุรกรรม เพื่อทำให้เกิดการอ้างอิงราคาหุ้นที่ซื้อขายในกระดานหรือไม่ โดยราคาที่บุคคลในวงจำกัดจะซื้อสามารถสร้างโฆษณาชวนเชื่อราคาหุ้น OTO ได้ หรืออาจนำไปสู่ผลทางจิตวิทยา ทำให้นักลงทุนทั่วไปเชื่อว่า ราคาหุ้นบนกระดานสมเหตุสมผล จนนักลงทุนรายใหญ่กล้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในราคา 16 บาท
STARK สร้างหายนะร้ายแรงให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยไปแล้ว และ OTO กำลังกลายเป็น STARK ภาค 2 สร้างความเสียหายรายแรงให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเท่าไหร่
แต่เบื้องหลังความล่มสลาย การถูกถล่มขายหุ้น OTO ยังไม่ถูกเปิดโปงเหมือนหุ้น STARK เท่านั้น
STARK ถูกวางแผน จัดฉาก สร้างภาพ แต่งบัญชีงบการเงินมาประมาณ 3 ปี จนทุกฝ่ายตายใจ ก่อนจะเชือดนักลงทุนจากล้มตายนับหมื่นราย
ส่วน OTO ปฏิบัติการลากราคาหุ้น เริ่มต้นจากปลายปี 2564 หลังการเพิ่มทุนและออกวอร์แรนต์ และรอจนนักลงทุนนำวอร์แรนต์ไปแปลงสภาพ ระดมเงินเข้าบริษัทฯ ประมาณ 700 ล้านบาท หุ้นจึงถูกทุบรูดลง
หัวโจกตัวโกง STARK คนในวงการตลาดหุ้นคงรู้ชื่อแซ่กันหมดแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีใครร่วมขบวนการปล้นนักลงทุนอีกหรือไม่เท่านั้น
แต่ OTO ไม่รู้ว่ามีตัวโกงหรือไม่ เพียงแต่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะมีตัวโกง และมีผู้อยู่เบื้องหลังวางแผนล่อนักลงทุนไปตาย
หุ้นเน่าๆ ที่สร้างความสั่นสะเทือนทั้งตลาดหุ้น ปล้นนักลงทุนจนหมดตัว คงไม่จบลงที่ STARK และ OTO เท่านั้น แต่จะต้องมีหุ้น STARK ภาค 3 ภาค 4 และภาคอื่นๆ ตามมาอีกนับสิบภาค
โศกนาฏกรรมของประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้น ไม่จบที่หุ้น STARK และ OTO แน่ จะมีนักลงทุนอีกนับหมื่นนับแสนที่ต้องวายวอดจากความหละหลวม และความล้มเหลวในการกำจัดหุ้นเน่าๆ ตามมา
(พรุ่งนี้อ่าน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ต้องยกเครื่องครั้งใหญ่ ต้องกล้า กระฉับกระเฉง ฉับไว ต้องตระหนักความรับผิดชอบในภาระความรับผิดชอบ เพื่อไล่จับและกวาดล้างอาชญากรในคราบผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน)