การปล้นในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า อาชญากรในตลาดหุ้นมีความโหดร้ายอำมหิตเพียงไร ไม่มีความเกรงกลัวบาปกรรม หรือบทลงโทษทางกฎหมายใดๆ แม้แต่น้อย
ตลาดหุ้นกลายเป็นศูนย์กลางของโจรหรือซ่องโจร เกิดการปล้นในบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติการปล้นเพียงครั้งเดียวสามารถร่ำรวยมีเงินใช้ไปตลอดชาติ โดยไม่ต้องเสี่ยงตาย หรือเสี่ยงคุกตะรางมากนัก
แก๊งปล้น STARK โกงดื้อๆ โดยไม่คำนึงว่า ใครจะวอดวายเท่าไหร่ ไม่หวั่นไหวเสียงประณามถึงบรรพบุรุษ ไม่มีความละอายใจ และไม่ต้องกังวลคุกตะราง
ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องไม่ปล่อยผ่านคดีปล้น STARK แต่ต้องตระหนักว่า หายนะของประชาชนผู้ลงทุนทั้งหุ้นกู้และหุ้นสามัญ เป็นตราบาปของหน่วยงานที่กำกับดูแลตลาดหุ้น
และหายนะที่เกิดขึ้นเป็นเพราะกฎเกณฑ์การควบคุมบริษัทจดทะเบียนอ่อนแอ ขาดประสิทธิภาพ ระบบการตรวจสอบมีช่องโหว่ และมาตรการปกป้องคุ้มครองผู้ลงทุนล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
กฎระเบียบในการควบคุม ระบบการตรวจสอบ และมาตรการคุ้มครองผู้ลงทุนจะต้องยกเครื่องให้เข้มข้น โดยอย่ากลัวผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน แต่จงกลัวหายนะที่จะเกิดกับประชาชนผู้ลงทุน เช่นเดียวที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับบริษัท โพลารีส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC และบริษัท เอ็นเนอร์ยี เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH และบริษัทจดทะเบียนที่ถูกตะเพิดออกจากตลาดหุ้นอีกนับสิบบริษัทที่มีการก่ออาชญากรรมปล้นนักลงทุนคล้ายๆกัน
เพียงแต่การปล้นใน STARK เป็นการปล้นที่ดิบกว่า เถื่อนกว่า และหยาบช้ากว่าเท่านั้น
และการปล้นที่หยาบช้า อำมหิตใน STARK พร้อมเกิดขึ้นตามมาอีก เพราะการปล้นในตลาดหุ้นคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ถ้าพลาดอย่างมากก็ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ ซึ่งสามารถหว่านเงินวิ่งเต้นเป่าคดีได้ และอาชญากรตลาดหุ้นใช้เงินที่ได้จากการปล้นล้มคดีมานับสิบคดีแล้ว
ผู้บริหาร ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องถอดเกราะกำบังป้องกันตัวเอง เลิกอ้างข้อกฎหมายหรือกฎระเบียบใดๆ เป็นขีดจำกัดการทำงานหรือแก้ไขปัญหา
เลิกอ้างผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนทั้งหมด เพื่อไม่ต้องออกกฎเกณฑ์หรือมาตรการกำกับดูแลที่เข้มข้นขึ้น
เพราะบริษัทจดทะเบียนที่ดี มีความโปร่งใส ยึดมั่นหลักธรรมาภิบาล ทำไมต้องกลัวกฎระเบียบที่เคร่งครัด
มีแต่บริษัทจดทะเบียนเน่าๆ และผู้บริหารบริษัทฯ ที่สวมคราบโจรเท่านั้นที่กลัวผลกระทบ
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรฃัพย์จะปกป้องบริษัทจดทะเบียนเน่าๆ เกรงใจผู้บริหารบริษัทที่พร้อมจะเป็นโจร โดยปล่อยให้ประชาชนผู้ลงทุนเสี่ยงภัยกันเองเช่นนั้นหรือ
ผู้บริหาร ก.ล.ต.และผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั่งอยู่บนหอคอยงานช้างมาตลอด นับแต่ก่อตั้งองค์กร ทำงานสบายๆ อยู่ในกรอบ ตามกฎระเบียบที่กำหนด โดยไม่ต้องตากแดดและเปียกฝน ไม่ต้องลงมาคลุกฝุ่น และปล่อยปละละเลยให้ประชาชนนับแสนนับล้านคน ถูกปล้นโดยกลุ่มมิจฉาชีพในตลาดหุ้นตลอด 48 ปี
โลกสวยของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ควรปิดฉากลงเสียที หลังหายนะของ STARK และต้องหันมาเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริงที่โหดร้าย
ต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นเป็นแหล่งสิงสถิตของมิจฉาชีพแก๊งต่างๆ ซึ่งพร้อมปฏิบัติการปล้นเช่นเดียวกับผู้บริหาร STARK
ผู้บริหาร ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า ทำอย่างไรจึงจะป้องกันหรือช่วยไม่ให้ประชาชนผู้ลงทุนตกเป็นเหยื่อ
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือในตลาด MAI ต้องตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นผู้ร้าย อาจแต่งตัวเข้ามาปล้นนักลงทุน และตรวจสอบ กลั่นกรองอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ยื่นแบบไฟลิ่ง หรือแบบแสดงรายการข้อมูลขอเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก และพิจารณาอย่างเข้มข้น ก่อนอนุมัติรับเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
ทุกธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนที่มีผลต่อราคาหุ้น ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ จะต้องสอดส่องติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าพฤติกรรมการสร้างข่าวดีของผู้บริหารจดทะเบียน การตั้งบริษัทลูก การทำรายการที่เกี่ยวโยง การซื้อและขายทรัพย์สิน การลงทุนในต่างประเทศ หรือแม้แต่การซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติ
มาตรการกำกับบริษัทจดทะเบียน มาตรการกำกับการซื้อขายหุ้นที่ผิดปกติ ถูกพิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า โดยแก๊งโจรใน STARK เป็นผู้พิสูจน์ให้สังคมได้ประจักษ์ในความล้มเหลว
ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ต้องสุมหัวหารือเพื่อรื้อระบบการทำงานและกฎเกณ์การควบคุมดูแลตลาดทุนครั้งใหญ่
ต้องมีความกระฉับกระเฉง เฉียบขาด รวดเร็วทันเหตุการณ์ และอย่าเกรงกลัวผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไม่ว่าหน้าไหน แต่ต้องกล้าดำเนินทุกมาตรการเด็ดขาด เพื่อปกป้องประชาชนผู้ลงทุน
คดีปล้นหยาบช้าใน STARK สร้างความเสียหายใหญ่หลวงสะท้านตลาดหุ้น ผู้บริหาร ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ชุดปัจจุบัน ต้องสร้างหลักประกันความมั่นใจประชาชนผู้ลงทุนว่า จะไม่เกิดหายนะใน STARK ภาค 2 ตามมา
เพราะวันนี้ ทั้งผู้บริหาร ก.ล.ต.และผู้บริหารตลาดหักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังไม่มีใครกล้าประกาศต่อสังคมว่า คดีปล้นในตลาดหุ้นจะไม่เกิดซ้ำรอย STARK อีก