แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นยังเต็มไปด้วยความผันผวน ถูกปัจจัยลบครบงำจนไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวสู่ความสดใส แต่ฝ่ายวิจัย โบรกเกอร์บางสำนักกลับมองโลกสวย ประเมินเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีที่ระดับ 1,800 จุด หรือมากกว่า ซึ่งไม่ง่ายนักที่จะได้เห็น
เพราะข่าวดีที่กระตุ้นให้หุ้นพลิกกลับสู่ขาขึ้นแทบไม่มี ขณะที่ต่างชาติยังเทขายหุ้นทิ้งต่อเนื่อง กดดันให้หุ้นทรุดตัวลงต่ำกว่า 1,600 จุดอีกครั้ง
การคาดหมายแนวโน้มตลาดหุ้นปีนี้ โบรกเกอร์แต่ละสำนักมีมุมมองที่หลากหลาย มีทั้งโบรกเกอร์ที่มองโลกในเชิงอนุรักษ์ ตั้งเป้าหมายดัชนีปลายปีที่ระดับ 1,650 จุด แต่หลายโบรกเกอร์ประเมินแถว 1,700 จุดเท่านั้น
โอกาสที่จะพุ่งทะยานทะลุ 1,800 จุด หรือเพิ่มขึ้นจากจุดปิดปัจจุบันอีกกว่า 200 จุดแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว นักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาซื้อหุ้น และมีความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
การเลือกตั้งครั้งใหม่ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล แต่ไม่อาจปลุกเศรษฐกิจให้ฟื้น หรือเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ และไม่มีข่าวดีที่รอคอยสำหรับตลาดหุ้น
หุ้นสัปดาห์นี้เกิดความปันป่วนเพราะผลกระทบจากหุ้นเพียงตัวเดียวคือ หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA โดยราคาหุ้น DELTA ทรุดลงอย่างหนัก ฉุดดัชนีให้รูดตามประมาณ 20 จุด แต่ผลกระทบจากความผันผวนของหุ้น DELTA เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
สัปดาห์หน้าจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นปกติของทุกปีตลาดจะเงียบเหงา นักลงทุนพากันชะลอการลงทุน เพราะกลัวความเสี่ยงช่วงวันหยุดยาว
ในช่วงสั้นหุ้นยังอยู่ในช่วงขาลง และไม่รู้ว่าจะถอยลงไปลึกขนาดไหน ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง โดยอาจจะเคาะซื้อขายต่ำกว่าวันละ 4 หมื่นล้านบาท
หลังสงกรานต์หลายคนอาจตั้งความหวังว่า ตลาดหุ้นจะกระเตื้องขึ้น แต่ไม่มีปัจจัยบ่งชี้ได้ว่าหุ้นสิ้นสุดช่วงเวลาแห่งความซบเซาแล้ว และนักลงทุนต่างชาติที่ถล่มขายหุ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมายังไม่กลับมาซื้อหุ้น
นักวิเคราะห์หุ้นที่มองโลกในแง่ดียังเชื่อว่า ต่างชาติจะกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง เพราะแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสดใส แต่เป็นเพียงความคาดหวังเท่านั้น และสถานการณ์ที่เป็นจริงคือ ต่างชาติยังขายหุ้นต่อเนื่อง ยอดสะสมขายหุ้นสุทธิจากต้นปีมีจำนวนกว่า 5.6 หมื่นล้านบาทแล้ว
ถ้าต่างชาติไม่กลับมาซื้อหุ้นจะพลิกตัวกลับสู่ขาขึ้นได้ยาก เพราะแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศมีไม่มาก และอาจไม่มีผู้นำในการจุดพลุแรงซื้อ โดยนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนซื้อๆ ขายๆ ไม่ได้หวนมาไล่ช้อนหุ้นเก็บอย่างต่อเนื่อง พอร์ตโบรกเกอร์มีกำลังซื้อจำกัด ขณะที่รายย่อยช้อนซื้อหุ้นแทบเต็มพอร์ตแล้ว ไม่น่าจะเหลือเงินสดในมืออีกเท่าไหร่
ตลาดหุ้นปีกระต่ายมีแนวโน้มย่ำแย่ยิ่งกว่าปี 2565 เสียอีก เพราะนอกจากจะมีปัจจัยลบกดดันรอบด้านแล้ว ยังไม่มีกองทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไล่ช้อนซื้อหุ้น และเงินจากการซื้อหุ้นประมาณ 2 แสนล้านบาทในปีก่อนกำลังทยอยออกมาขายในปีนี้ ฉุดดัชนีดิ่งลงมาเรื่อยๆ
หุ้นเข้าสู่ภาวะซึมหนักรอบใหม่ กวาดต้อนเอานักลงทุนรายย่อยที่สู้ไม่ถอย ซื้อไม่เลิก ขึ้นไปติดบนยอดดอยเป็นแถว
รายย่อยเก็บหุ้นมาตลอด แบกหุ้นต้นทุนสูงเต็มพอร์ต ควรจะต้องพักรบเสียที บริหารหุ้นที่มีอยู่เก่าก็พอ อย่าซื้อของแพงเข้ามาอีก