หุ้นไทยปิดร่วงหนัก 26.58 จุด รับ Sentiment ลบวิกฤต SVB ถล่มขายหุ้นแบงก์ สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวหลังนักลงทุนรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว และพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง รวมถึงนักลงทุนคลายกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรง โดยให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากเดิมคาด 0.5% ในการประชุมเดือน มี.ค.นี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ SVB
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลงรับ Sentiment เชิงลบจากซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัปในกลุ่มเทคโนโลยีปิดกิจการ จากการประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะเดียวกันกับธนาคารอื่นๆ อีกหรือไม่ ทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยออกมาอย่างหนัก ทั้ง KBANK, BBL, SCB ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ด้วย
ขณะที่ล่าสุดช่วงท้ายตลาดมีรายงานข่าวว่าหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ร่วงลงกว่า 60% ในการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการในวันนี้ ถูกกดดันจากการปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ และ SVB โดยเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ เข้าถึงสภาพคล่องได้กว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศโครงการ Bank Term Funding Program
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,573.07 จุด ลดลง 26.58 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.66% มูลค่าการซื้อขาย 79,662.39 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวหลังนักลงทุนรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว และพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง รวมถึงนักลงทุนคลายกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐณ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยแรง โดยให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากเดิมคาด 0.5% ในการประชุมเดือน มี.ค.นี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ SVB พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด