หุ้นไทยปิดดิ่ง 14.57 จุดตามต่างประเทศ กังวลปัญหาแบงก์ลามเติมปัจจัยลบ คาดเงินทุนต่างชาติไหลออกเพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน โดยตลาดยังรอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ (13-14 มี.ค.) คาดว่าตลาดจะไม่ไปไหนไกล
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับฐานลง เนื่องจากความกังวลธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) จะเพิ่มทุน สะท้อนว่าแบงก์เริ่มมีปัญหาการปล่อยกู้ให้สตาร์ทอัป ทำให้เพิ่มปัจจัยลบใหม่เข้ามาในตลาด จากเดิมที่ตลาดกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ก็มีควมเสี่ยงเรื่องเครดิตแบงก์ ซึ่งไม่รู้ว่าผลกระทบใหญ่แค่ไหน จึงมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นปรับตัวลงค่อนข้างแรง ตลาดหุ้นไทยหนีไม่พ้นเงินทุนต่างชาติไหลออกเพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน
นอกจากนี้ รอลุ้นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าตัวเลขจะสูงขึ้น และรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. ที่จะประกาศในวันอังคารหน้า โดยตลาดคาด 6.2% ชะลอจากเดือน ม.ค.ที่ 6.4%
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,599.65 จุด ลดลง 14.57 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.90% มูลค่าการซื้อขาย 49,261.04 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ (13-14 มี.ค.) คาดว่าตลาดจะไม่ไปไหนไกล เพราะรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้ และปัจจัยในประเทศ หากมีการประกาศยุบสภาเป็นปัจจัยบวกเข้ามา เพราะจะมีความชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะไม่เลื่อนออกไป
โดยให้แนวรับที่ 1,590 จุด แนวต้านที่ 1,620 จุด โดยในวันพุธที่ 22 มี.ค.มีประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%