xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ร่วงแรงปิด -14.57 จุด ฝรั่งถอนลงทุนหุ้นไทย-กังวลสภาพคล่องการเงินกลุ่มแบงก์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยร่วงแรงปิด -14.57 จุด โบรกฯ เผยเงินทุนต่างชาติยังคงไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน ฉุดดัชนีหลุด 1,600 จุด อีกทั้งยังเกิดความกังวลสภาพคล่องเงินทุนกลุ่มแบงก์ มองแนวรับสัปดาหน้าที่ 1,590 จุด และแนวต้านที่ 1,620 จุด แนะจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ส่งผลต่อตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพุธที่ 22 มี.ค. คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 10 มีนาคม 2566 ปรับตัวลดลง -14.57 จุด หรือ -0.90% โดยปิดตลาดที่ 1,599.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,261.04 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงแรงตามตลาดต่างประเทศ ระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,609.10 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,596.44 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 388 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 398 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,213 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,531.59 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +684.43 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -3,817.12 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -398.91 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,757.99 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,662.24 ล้านบาท ปิดที่ 992.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
3.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,552.78 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
4.TU มูลค่าการซื้อขาย 1,503.32 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,501.25 ล้านบาท ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่209.00 บาท เพิ่มขึ้น2.00 บาท หรือ 0.97%
2.GLOBAL ปิดที่ 19.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.59%
3.TCAPปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.15%
4.INTUCH ปิดที่ 73.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.68%
5.PSL ปิดที่ 14.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.78%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่146.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.01%
2.FORTHปิดที่36.50บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 5.19%
3.DELTA ปิดที่992.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.20%
4.KBANKปิดที่136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.09%
5.JMARTปิดที่ 23.80บาท ลดลง 1.45 บาท หรือ 5.74%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,147.32 จุด ลดลง -18.57 จุด หรือ -0.86% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 954.28 จุด ลดลง -8.07 จุด หรือ -0.84% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 560.13 จุด ลดลง -4.59 จุด หรือ -0.81%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศที่ต่างปรับฐานลง เนื่องจากความกังวลธนาคารเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) จะเพิ่มทุน สะท้อนว่าแบงก์เริ่มมีปัญหาการปล่อยกู้ให้สตาร์ทอัป ทำให้เพิ่มปัจจัยลบใหม่เข้ามาในตลาด จากเดิมที่ตลาดกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ก็มีความเสี่ยงเรื่องเครดิตแบงก์ ซึ่งไม่รู้ว่าผลกระทบใหญ่แค่ไหน จึงมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นปรับตัวลงค่อนข้างแรง ตลาดหุ้นไทยหนีไม่พ้นเงินทุนต่างชาติก็ไหลออกเพื่อลดความเสี่ยงการลงทุน

นอกจากนี้ รอลุ้นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าตัวเลขจะสูงขึ้น และรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. ที่จะประกาศในวันอังคารหน้า โดยตลาดคาด 6.2% ชะลอจากเดือน ม.ค.ที่ 6.4%

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์ (13-14 มี.ค.) คาดว่าตลาดจะไม่ไปไหนไกล เพราะรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ หากเป็นไปตามที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้ และปัจจัยในประเทศ หากมีการประกาศยุบสภาเป็นปัจจัยบวกเข้ามา เพราะจะมีความชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะไม่เลื่อนออกไป โดยประเมินแนวรับที่ 1,590 จุด แนวต้านที่ 1,620 จุด โดยในวันพุธที่ 22 มี.ค.มีประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50%


กำลังโหลดความคิดเห็น