xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ร่วงรับสัญญาณเฟดขึ้นดอกเบี้ย -5.91 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -5.91 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดปรับตัวลดลงรับลูก FED ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แรงกว่าคาด ฉุดให้ดัชนี SET INDEX หลุดแนวรับ 1,600 จุด แนะจับตาตัวเลขดัชนี JOLTS ของเดือน ม.ค. และ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.พ.จาก ADP ประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 มี.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -5.91 จุด หรือ -0.37% โดยปิดตลาดที่ 1,612.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,250.43 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดทำการในภาคเช้าและอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,615.51 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,599.87 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 533 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 483 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 944 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,088.72 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,001.88 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,987.97 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -102.63 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,996.71 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,278.15 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,437.73 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
4.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,321.59 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
5.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,319.57 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CBGปิดที่ 101.00 บาท เพิ่มขึ้น3.50 บาทหรือ3.59%
2.BH ปิดที่216.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.41%
3.BBLปิดที่160.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.95%
4.FORTHปิดที่39.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.60%
5.AMATAปิดที่21.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาทหรือ 2.87%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่990.00 บาท ลดลง 6.00 บาทหรือ0.60%
2.KBANK ปิดที่137.50 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ2.48%
3.PTTEP ปิดที่151.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ1.95%
4.SCC ปิดที่331.00 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ0.90%
5.HANA ปิดที่52.25 บาท ลดลง 2.25 บาทหรือ4.13%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,163.49 จุด ลดลง -10.65 จุด หรือ -0.49% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 961.77 จุด ลดลง -5.25 จุด หรือ -0.54% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 567.21 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ 0.64%

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง ตอบรับถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด ทำให้ SET ร่วงลงมาที่แนวรับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ และยังคงรับอยู่ โดยเริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างแล้ว เนื่องด้วยมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตที่ดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก และยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดดัชนีฯ มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังจากลงไป 1,600 จุด ก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมาอย่างโดดเด่น โดยคืนนี้ให้ติดตามตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.พ.จาก ADP โดยประเมินกรอบแนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด

ขณะที่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าถ้อยแถลงของ Fed สื่อความหมายสองนัยด้วยกัน หนึ่งคือ อัตราดอกเบี้ยสูงสุดมีแนวโน้มจะสูงกว่าที่ Fed คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า และสองคือ การลดอัตราปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เมื่อเดือนที่แล้วเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ซึ่ง Fed มีสิทธิ์จะเพิ่มสัดส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้มากขึ้น หากว่าข้อมูลเงินเฟ้อยังคงร้อนแรง

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมา Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว 8 ครั้ง โดยงวดล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ Fed ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอยู่ที่ 0.25% หลังจากปรับขึ้น 0.50% ในเดือนธันวาคม และปรับขึ้น 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้งในการประชุม Fed ก่อนหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น