หุ้นไทยปิดตลาดร่วงแรง -18.45 จุด โบรกฯ ตลาดผิดหวังประกาศงบ บจ. โดยเฉพาะ CPALL ซึ่งเทขายออกมาอย่างหนัก อีกทั้งยังมีแรงขายของหุ้นกลุ่มหุ้นแบงก์และพลังงานออกมาซ้ำเติม โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่ขายหุ้นออกไปกว่า -5,122.63 ล้านบาท มองสัปดาห์หน้าลุ้นรีบาวนด์ระยะสั้นหลังปรับตัวลดลงไปมากแล้ว โดยประเมินกรอบดัชนีแนวรับที่ 1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,650 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 24 ก.พ.2566 ปรับตัวลดลง -18.45 จุด หรือ -1.12% โดยปิดตลาดที่ 1,634.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 67,192.18 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้า โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,654.09 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดแตะ 1,631.54 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 381 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 412 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,213 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -5,122.63 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -632.24 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +4,393.03 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า +1,361.85 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,733.92 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 3.25 บาท
2.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,696.98 ล้านบาท ปิดที่ 77.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,638.13 ล้านบาท ปิดที่ 135.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
4.ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,902.31 ล้านบาท ปิดที่ 201.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
5.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,699.35 ล้านบาท ปิดที่ 942.00 บาท ลดลง 26.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCB ปิดที่ 101.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 1.75%
2.PSL ปิดที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ4.03%
3.SAWAD ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ0.90%
4.NEX ปิดที่ 16.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ1.82%
5.PTT ปิดที่ 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ0.78%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 942.00 บาท ลดลง 26.00 บาท หรือ 2.69%
2.SCC ปิดที่331.00 บาท ลดลง 7.00บาท หรือ 2.07%
3.CPALLปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 5.00%
4.EA ปิดที่77.00 บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 3.14%
5.FORTH ปิดที่41.25 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 4.62%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,192.90 จุด ลดลง -26.93 จุด หรือ -1.21% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 973.75 จุด ลดลง -12.51 จุด หรือ -1.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 563.95 จุด ลดลง -10.91 จุด หรือ -1.90%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง หลังนักลงทุนผิดหวังผลงานบริษัทจดทะเบียนปี 65 ออกมาต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะ CPALL ถูกเทขายหลังประกาศกำไรต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนั้น ยังเผชิญแรงขายหุ้นใหญ่กลุ่มหุ้นพลังงาน-แบงก์ที่ออกมาต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติถือค่อนข้างมาก จึงเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันดัชนีเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ในวันนี้เคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกัน อีกทั้งภาพรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่กรรมการเฟดยังคงสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยหลักกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า อาจได้เห็นการรีบาวนด์ในระยะสั้นหลังจากลงไปค่อนข้างมากแล้ว และแกว่งไซด์เวย์เพื่อรอปัจจัยใหม่ คืนนี้ยังต้องติดตามการรายงานตัวเลข PCE ของการใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โดยประเมินแนวรับที่ 1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,650 จุด