หุ้นไทยปิดตลาด -6.62 จุด โบรกฯ เผยตัวเลข GDP ไตรมาส 4/65 ที่สภาพัฒน์ประกาศออกมาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งกลายเป็นแรงตอกย้ำผลประกอบการ บจ. ที่ออกมาแย่อยู่แล้วให้เลวร้ายลงไปอีก ทำให้เกิดแรงเทขายของหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าคาดยังซึมตัวต่อเนื่องโดยประเมินแนวรับที่ 1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,650 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 ก.พ.2566 ปรับตัวลดลง -6.62 จุด หรือ -0.40% โดยปิดตลาดที่ 1,651.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,413.46 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวอยู่ในแนวลบ โดยระหว่างวันปรับขึ้นสูงสุดที่ 1,657.02 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,643.82 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 427 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 473 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,113 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,780.79 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -16.09 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,362.04 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +434.84 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,115.35 ล้านบาท ปิดที่ 952.00 บาท ลดลง 24.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,931.56 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
3.JMART มูลค่าการซื้อขาย 1,756.07 ล้านบาท ปิดที่ 27.25 บาท ลดลง 2.25 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,476.98 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,386.58 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.93%
2.OSPปิดที่ 31.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.28%
3.PTTปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ2.29%
4.DTACปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.46%
5.ONEE ปิดที่ 7.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 6.94%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 952.00 บาท ลดลง 24.00 บาท หรือ 2.46%
2.JMART ปิดที่ 27.25บาท ลดลง 2.25 บาท หรือ 7.63%
3.BBLปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 1.23%
4.ADVANCปิดที่ 209.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.95%
5.KBANK ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.08%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,224.12 จุด ลดลง -9.26 จุด หรือ -0.41% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 990.44 จุด ลดลง -4.37 จุด หรือ -0.44% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 569.48 จุด ลดลง -7.60 จุด หรือ -1.32%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมาพอสมควร จากตัวเลข GDP ไตรมาส 4/65 ของไทยออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไปมาก ตอกย้ำผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ออกมาแย่อยู่แล้ว จึงมีแรงขายออกมา โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มแนวโน้มกำไรดี เช่น กลุ่มท่องเที่ยว การบริโภคที่ยังปรับตัวขึ้นบวกได้เล็กน้อย
ส่วนแนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดยังซึมตัว นักลงทุนยังคงติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเปิดประเทศ (Reopening) หากออกมาดีกว่าคาด น่าจะลดแรงกดดันลงได้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,630 จุด และแนวต้าน 1,650 จุด