หุ้นไทยปิดลบ -9.15 จุด ปรับตัวลดลงตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่กลับมากังวลต่ออัตราดอกเบี้ยสหรัฐหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี แต่ในทางกลับกันผลงานบริษัทค้าปลีกสหรัฐออกมาในทางตรงกันข้ามทำให้น่าผิดหวัง แนะจับตารายงานตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของเดือน ม.ค. ที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์นี้ โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,650-1,655 จุด และแนวต้านที่ 1,667-1,670 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 22 ก.พ.2566 ปรับตัวลดลง -9.15 จุด หรือ -0.55% โดยปิดตลาดที่ 1,659.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,106.24 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายในวันนี้แกว่งตัวสลับขึ้นลงทั้งแดนบวกและแดนลบในภาคเช้า ขณะที่การซื้อขายในช่วงบ่ายทยอยปรับตัวลดลงในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,667.99 จุด ในทางกลับกันปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,656.50 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 523 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 457 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,018 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -4,278.26 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,514.35 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +601.76 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,162.15 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,440.22 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,759.11 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.SINGER มูลค่าการซื้อขาย 2,026.22 ล้านบาท ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,530.49 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,304.94 ล้านบาท ปิดที่ 17.30 บาท ลดลง 0.20 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 220.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.38%
2.SINGER ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.60บาทหรือ 7.62%
3.CENTELปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 1.83%
4.CPALL ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาทหรือ 1.53%
5.TISCOปิดที่ 102.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.99%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCCปิดที่ 336.00 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 1.18%
2.DELTA ปิดที่ 966.00 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 0.41%
3.PTTEP ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 2.19%
4.HANA ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 5.13 %
5.KBANKปิดที่ 136.50 บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 2.15 %
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,230.34 จุด ลดลง -14.22 จุด หรือ -0.63% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 991.27 จุด ลดลง -6.49 จุด หรือ -0.65% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 573.11 จุด ลดลง -3.88 จุด หรือ -0.67%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามบรรยากาศการลงทุนภายนอกประเทศที่เป็นลบถ้วนหน้า ทั้งในภูมิภาคเอเชียและฝั่งยุโรป จากนักลงทุนกลับมากังวลทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดี แต่ขณะเดียวกันผลงานบริษัทค้าปลีกสหรัฐออกมาน่าผิดหวัง ทำให้เกิดความสับสนว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นอย่างไรต่อไป หลังจากช่วงก่อนหน้าตัวเลขภาคแรงงานออกมาดูดี แต่ค้าปลีกชะลอตัว
นอกจากนั้น นักลงทุนยังอยู่ระหว่างรอติดตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ในวันนี้ (22 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐ และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของเดือน ม.ค.ในวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าภาพรวมดัชนีการลงทุนจะยังคงแกว่งตัวออกด้านข้าง แม้วันนี้จะมีการพักฐานลงมาแต่ไม่ได้แย่มาก ให้แนวรับสำคัญไว้ที่ 1,650-1,655 จุด และแนวต้าน 1,667-1,670 จุด