xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นรีบาวนด์กรอบจำกัด เก็งเฟดชะลอขึ้น ดบ.แรง-เกาะติดผลกระทบ SVB

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โบรกฯ มองแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวนด์กรอบจำกัด เก็งเฟดชะลอขึ้น ดบ.แรง เกาะติดผลกระทบ SVB หลังเฟดประกาศแผนออกมาประกันเงินฝากของลูกค้า แต่ผลกระทบจากการปิด 2 ธนาคารของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นยังเป็นการสร้างความกังวลต่อนักลงทุนขึ้นได้อยู่ ขณะที่ Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ไทยในวันนี้มองว่ามีผลกระทบจำกัดในด้านของราคาหุ้นบ้าง

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวรด์ได้ในกรอบจำกัด หลังเมื่อเช้านี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศแผนออกมาประกันเงินฝากของลูกค้าซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) เพื่อป้องกันผลกระทบ และตั้งกองทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงของสถาบันการเงินอื่นๆ ที่อาจเกิดผลกระทบขึ้น ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นขานรับปัจจัยดังกล่าว และส่งผลบวกตามมาต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในเช้านี้ที่จะค่อยๆ กลับมารีบาวนด์ โดยตลาดหุ้นเอเชียในเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่ยังปรับตัวลงอยู่บ้าง แต่ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดมาบวกได้เล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม มองว่าผลกระทบจากการปิด 2 ธนาคารของสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นยังเป็นการสร้างความกังวลต่อนักลงทุนขึ้นได้อยู่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีธนาคารในสหรัฐฯ อื่นๆ มีผลกระทบเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ทำให้ในระยะสั้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังถูกกดดัน และต้องติดตามว่าท่าทีของเฟดจะพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยที่ชะลอลงหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ขณะที่ Sentiment ต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ไทยในวันนี้มองว่ามีผลกระทบจำกัดในด้านของราคาหุ้นบ้าง แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของแบงก์ไทยแล้วนั้นยังคงมีความแข็งแกร่ง จากการมีเงินกองทุน และการตั้งสำรองฯ ที่สูง เงินฝากและสินเชื่อกระจายตัว ประกอบกับมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหมดเพดานการลงทุนในสตาร์ทอัปได้ไม่เกิน 3% ของเงินกองทุน ทำให้แบงก์ไทยมีความเสี่ยงในผลกระทบดังกล่าวน้อยมาก ซึ่งหากราคามีการย่อตัวลงมาสามารถหาโอกาสในการเข้าซื้อสะสมได้

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะออกมาในคืนพรุ่งนี้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ตลาดได้มีการมองโอกาสของเฟดไปบ้างแล้วหลังจากเกิดเหตุการณ์ปิด 2 แบงก์ในสหรัฐฯ อาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าเพียง 0.25% จากเดิมที่ 0.50% ทำให้เป็นอัปไซด์ต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นได้ โดยให้แนวต้าน 1,610-1,615 จุด แนวรับ 1,585-1,590 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น