ซิลเวอร์เกต แคปิตอล คอร์ป หุ้นร่วง -30% หลังเกิดปัญหาไม่สามารถเปิดเผยงบการเงินและผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดได้ เนื่องจากสถานะทางการเงินของบริษัทอาจประสบปัญหา หลังได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตลาดคริปโตในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนมองว่าอาจเสี่ยงล้มตาม FTX ไปอีกราย
วันนี้ราคาหุ้นของ ซิลเวอร์เกต แคปิตอล คอร์ป (Silvergate Capital Corp) ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารด้านคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับตัวลดลงไปกว่า -30% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้ หลังจากที่บริษัทได้ประกาศเลื่อนการเปิดเผยผลประกอบการประจำปี พร้อมกันนี้บริษัทยังระบุว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงของการประเมินว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้หรือไม่ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโต โดยที่ผ่านมานั้น ซิลเวอร์เกต พยายามลดกระแสความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท หลังจากที่เกิดปัญหาภาวะขาดทุนสูง ที่มีมูลค่าความเสียหายมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2565 จากการล้มละลายของบริษัท FTX ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมาก
ขณะเดียวกันทางสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัยการรัฐวอชิงตันกำลังดำเนินการตรวจสอบซิลเวอร์เกต รวมทั้งแนวทางของบริษัทในการรับมือกับผลกระทบจากการล้มละลายของ FTX และบริษัทอลาเมดา รีเสิร์ช โดยในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยวุฒิสมาชิกจำนวน 3 รายของสหรัฐ ได้เรียกร้องให้ซิลเวอร์เกตชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยง และการรับมือกับกรณีของ FTX ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงต่อ ซิลเวอร์เกต และอาจเป็นตัวชี้วัดหรือกำหนดชะตาอนาคตของบริษัทอีกด้วย
ทั้งนี้ ซิลเวอร์เกตระบุว่า ทางบริษัทอาจไม่สามารถยื่นรายงานผลประกอบการต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้ตามกำหนดในวันที่ 16 มี.ค.นี้