แม้แบนธุรกรรมคริปโตมาตั้งแต่ปี 2021 แต่สำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน จีนยังคงเดินหน้าผลักดันไม่หยุด โดยล่าสุดเตรียมเปิดศูนย์วิจัยนวัตกรรมบล็อกเชนแห่งชาติในปักกิ่ง
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่รายงานว่า ศูนย์นวัตกรรมบล็อกเชนแห่งชาติของจีนจะทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญและบริษัทบล็อกเชนในประเทศ เพื่อสำรวจเทคโนโลยีหลักที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน
ตามรายงานนั้น ผลงานการวิจัยจากศูนย์แห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอลใหม่และส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมบล็อกเชนของจีน โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ศูนย์นวัตกรรมจะโฟกัสที่ทฤษฎีพื้นฐานของบล็อกเชน ซอฟต์แวร์ของเทคโนโลยีหลัก และฮาร์ดแวร์ ซึ่งรวมถึงแพลตฟอร์มพื้นฐานและเครือข่ายตรวจยืนยัน Beijing Academy of Blockchain and Edge Computing (BABEC) จะรับผิดชอบสถาบันวิจัยแห่งใหม่นี้
BABEC โด่งดังเป็นที่รู้จักจากบล็อกเชน ChainMaker ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจ 50 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารเพื่อการก่อสร้างจีนของรัฐบาล (ไชน่า ยูนิคอม)
ปัจจุบัน ChainMaker ดำเนินการธุรกรรม 240 ล้านรายการต่อวินาที (TPS) จาก 100,000 TPS ในปี 2021 BABEC ยังเป็นผู้นำเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นคำอธิบายว่า เหตุใดจีนจึงมอบหมายให้องค์กรแห่งนี้รับผิดชอบดูแลสถาบันวิจัยใหม่ แม้มีจุดยืนต่อต้านการเทรดคริปโตอย่างแข็งกร้าว แต่จีนกระตือรือร้นมากในด้านบล็อกเชนถึงขั้นประกาศตัวเป็นประเทศบล็อกเชน เดือนกันยายนปีที่แล้วปักกิ่งอวดอ้างว่า จีนยื่นขอสิทธิบัตรแอปพลิเคชันบล็อกเชนถึง 84% ของทั่วโลก
แม้คำกล่าวอ้างนี้อาจไม่เกินความจริงมากนัก แต่อัตราการอนุมัติถือว่าต่ำมาก โดยมีเพียง 19% เท่านั้นที่ได้รับอนุมัติ
นอกจากการวิจัยเทคโนโลยีบล็อกเชนแล้ว โครงการพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ยังเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกของรัฐบาลจีนในขณะนี้
ที่ผ่านมาแบงก์ชาติจีนได้ออกเงินหยวนดิจิตอล (e-CNY) แจกจ่ายทั่วประเทศมูลค่าหลายล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมการใช้ CBDC ตามรายงานนั้นธนาคารกลางจีนได้จัดกิจกรรมราว 200 กิจกรรมทั่วประเทศระหว่างช่วงเทศกาลวันหยุด
กิจกรรมเหล่านี้มุ่งส่งเสริมการบริโภค หนังสือพิมพ์โกลบัล ไทมส์รายงานว่า เมืองอย่างเซินเจิ้นออกเงินหยวนดิจิตอลมูลค่ากว่า 14.7 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมจัดเลี้ยง
จีนดำเนินมาตรการสนับสนุนอีกหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายให้เมืองต่างๆ ส่งเสริมการใช้ CBDC รายงานอีกฉบับตั้งข้อสังเกตว่า เมืองหังโจวออกเวาเชอร์หยวนดิจิตอลมูลค่า 80 หยวนให้ประชาชนแต่ละคนเมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา รวมแล้วมีการแจกเงินหยวนดิจิตอล 4 ล้านหยวน (590,000 ดอลลาร์)
นอกจากนั้นเมื่อวันที่ 1 เดือนนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์ในเมืองซูโจวยังคาดการณ์ว่า จะมีการทำธุรกรรม e-CNY มูลค่าถึง 2 ล้านล้านหยวน (300,000 ล้านดอลลาร์) ภายในปีนี้ ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับเมืองเดียวเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการทำธุรกรรม e-CNY ทั้งหมดที่กว่า 100,000 ล้านหยวน (14,000 ล้านดอลลาร์) จนถึงเดือนตุลาคม 2022 หรือสองปีหลังเปิดตัว CBDC
เดือนที่ผ่านมายังมีการอัพเดตวอลเล็ตแอป e-CNY เพื่อให้ผู้ใช้ชำระเงินไร้สายบนมือถือแอนดรอยด์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนถือเป็นฮับเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักระดับโลก และศูนย์วิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนแห่งใหม่อาจทำให้จีนประสบความสำเร็จในแวดวงนี้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความพยายามไล่ตามนวัตกรรมดิจิตอล เมื่อเร็วๆ นี้ อดีตผู้บริหารของธนาคารประชาชนจีนเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนข้อจำกัดเข้มงวดเกี่ยวกับคริปโต โดยบอกว่า การแบนสกุลเงินดิจิตอลถาวรอาจทำให้ระบบการเงินอย่างเป็นทางการของประเทศพลาดโอกาสหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงโอกาสเกี่ยวกับบล็อกเชนและกระบวนการแปลงสินทรัพย์ต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิตอล (tokenization)