หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้นบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ซึ่งราคาหุ้นพุ่งทะยานอย่างโดดเด่น นักลงทุนแห่กลับเข้ามาไล่ช้อนหุ้นกันฝุ่นตลบ ภายใต้ความคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการบริษัทฯ เติบโต
ราคาหุ้น KCE เคยขยับขึ้นสูงสุดเกือบทะลุ 100 บาท และในรอบ 12 เดือน ราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 75.50 บาท ก่อนจะรูดลงต่ำสุดที่ 39.75 บาท หลังจากนั้นจึงเริ่มกระเตื้องขึ้น เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนตัวอื่นๆ จนล่าสุด วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขยับปิดที่ 55.50 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น 2,132.06 ล้านบาท
KCE ถูกผลกระทบจากปัญหาเครื่องจักรในการขยายกำลังผลิตจนถูกโบรกเกอร์ปรับลดประมาณการเป้าหมายราคา เนื่องจากรายได้ไม่เติบโตตามเป้าหมาย และถูกซ้ำเติมจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในจีน ส่งผลกระทบต่อรายได้การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปในจีน
ราคาหุ้น KCE ดำดิ่งจนต่ำสุดที่ 39.75 บาท จึงเริ่มมีแรงซื้อกับเข้ามา โดยเฉพาะในสัปดาห์นี้ที่ราคาดีดกลับแรง เนื่องจากนักลงทุนคาดหมายว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 4 จะออกมาดี
ผลประกอบการ KCE เติบโตหลายปีติดต่อ โดยปี 2562 มีกำไรสุทธิ 934.49 ล้านบาท ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 1,126.79 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 2,426.28 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,816.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,725.29 ล้านบาท
ค่าพี/อี เรโช KCE อยู่ที่ 25.70 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.92% โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 33,405 ราย จึงถือเป็นหุ้นติดอันดับยอดนิยมในกลุ่มชิ้นส่วนฯ
ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทโบรกเกอร์กว่า 10 แห่ง ส่วนใหญ่แนะนำให้ซื้อหุ้น KCE โดยประมาณการเป้าหมายหุ้นราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 50 บาท แต่บางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายไว้เพียง 37 บาท ขณะที่บางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายที่ 74 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือน
แม้หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ จะมีแนวโน้มกลับสู่ช่วงขาขึ้น แต่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์บางคนส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังความผันผวน เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว และอาจถูกผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ลดลง รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็ง ทำให้ผลกำไรลดลง
มุมมองหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ รวมทั้งหุ้น KCE ในหมู่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แตกออกเป็น 2 ด้าน มีทั้งเสียงเชียร์ให้ซื้อ และคำแนะนำให้ขายทำกำไร เพราะไม่มั่นใจในแนวโน้มผลประกอบการ
ระหว่างราคาต่ำสุดและสูงสุดในรอบ 12 เดือน KCE ขยับขึ้นมาอยู่แถวกึ่งกลาง แต่สูงกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่โบรกเกอร์กว่า 10 แห่งประมาณการไว้ และไม่อาจประเมินได้ว่า ราคาจะเดินหน้าต่อไปได้อีกขนาดไหน
จะย่อลงหรือทะยานขึ้นต่อเพื่อไล่ล่าราคาสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 75.50 บาท
อีกไม่กี่วัน KCE จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2565 และนักลงทุนกำลังเฝ้าติดตาม เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำว่า หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนตัวนี้ควรจะเข้าไปไล่เก็บหรือไม่ และได้เวลาขาขึ้นรอบใหญ่ของ KCE หรือยัง
