xs
xsm
sm
md
lg

กำไร KBANK น่าผิดหวัง / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2565 มาแล้ว แต่ตัวเลขผลกำไรหลายธนาคารน่าผิดหวัง โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK และนำมาสู่การเทขายหุ้น จนราคารูดลงแรง

KBANK แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์หลังปิดการซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 3,191 ล้านบาท ลดลง 69% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำสุทธิ 10,574 ล้านบาท เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้เผื่อสงสัยจะสูญมากขึ้น

ส่วนผลดำเนินงานปี 2565 มีกำไรสุทธิรวม 35,770 ล้านบาท ลดลง 6% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 38,053 ล้านบาท

หุ้น KBANK ถูกเทขายตั้งแต่เปิดตลาดวันศุกร์ที่ 20 มกราคม ก่อนจะปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 9 บาท หรือลดลง 5.86% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการ

หุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มขยับขึ้นคึกคักหลังจากนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอย่างหนัก เมื่อช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2565 ต่อเนื่องถึงสัปดาห์แรกปี 2566

กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขยับขึ้นมายกแผง รวมทั้ง KBANK ที่เคลื่อนไหวในระดับ 140 ต้นอยู่พักใหญ่ โดยราคากระเตื้องขึ้นอย่างช้าๆ จนขึ้นมาปิดสูงสุด 156.50 บาท เมื่อวันที่ 12 มกราคม และทรงตัวเคลื่อนไหวกรอบแคบๆอยู่หลายวัน ก่อนรูดลงหลังประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 4

ปัจจัยพื้นฐาน KBANK ยังจัดอยู่ในเกณฑ์ดี มีค่าพี/อี เรโช 8.06 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 2.25% นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ถือ แม้ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 และปี 2565 ไม่ดีนักก็ตาม

หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับเสียงเชียร์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยประเมินว่าผลประกอกการมีแนวโน้มเติบโต และคาดว่าไตรมาสที่ 4 ปี 2565 กำไรธนาคารต่างยังเติบโต รวมทั้ง KBANK ซึ่งจัดเป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

แต่ปรากฏว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มแบงก์ชะลอตัวลง และ KBANK ชะลอตัวลงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์กว่า 10 แห่ง ได้ประมาณการราคาเป้าหมายหุ้น KBANK โดยบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ตั้งราคาเป้าหมายไว้ต่ำที่สุดในบรรดาโบรกเกอร์ด้วยกันคือ 166 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 184 บาท แต่บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วีคเคอร์ส (ประเทศไทย) ให้ราคาเป้าหมายที่ 202 บาท

และโบรกเกอร์แทบทุกสำนักแนะนำให้ซื้อ KBANK

จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย KBANK มีจำนวนทั้งสิ้น 79,229 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 79.86% ของทุนจดทะเบียน โดยเป็นหนึ่งในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมาก และเป็นหุ้นแบงก์ที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

เพียงแต่กำไรที่ชะลอตัว และตัวเลขการตั้งสำรองสูง ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลในผลกระทบภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจฉุดให้ผลประกอบการกลุ่มแบงก์และนอนแบงก์ชะลอตัว ราคาหุ้นกลุ่มนอนแบงก์จึงอ่อนตัวลงตาม

ราคาหุ้น KBANK เมื่อวันศุกร์ได้ซึมซับรับข่าวร้ายไประดับหนึ่งแล้ว เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เกิดรายการเซลล์ออนแฟก หรือการขายหุ้นเมื่อมีการประกาศข่าวดี และการถอยลงมาตั้งหลักในระดับ 144.50 บาท ถือเป็นราคาที่เคยย่ำฐานมาก่อนหน้าเป็นแรมเดือน

ดังนั้น KBANK อาจลงมาแถวแนวตั้งรับสำคัญแล้ว ซึ่งหากลงต่อคงเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาต้านทาน

แต่ผลกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เติบโตไม่มาก ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกสดใส อาจทำให้ความน่าสนใจหุ้นกลุ่มแบงก์ลดลง

รวมทั้ง KBANK ที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2565 ย่ำแย่สุดในแบงก์ขนาดใหญ่ด้วยกัน








กำลังโหลดความคิดเห็น