หุ้นบริษัท เอส.เอ.เอฟ.สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF เป็นหุ้นน้องใหม่ตัวแรกที่ประเดิมเข้าซื้อขายในหุ้น และสร้างความเจ็บแสบให้นักเก็งกำไรไม่น้อย เพราะเปิดการซื้อขายราคาถูกกระชากขึ้นไปสูงลิ่ว ก่อนมีแรงขายเทออกมา ฉุดให้ราคาดิ่งลง
SAF นำหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 80 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 50 สตางค์ เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 1.93 บาท โดยมีค่าพี/อี เรโช 34.96 เท่า ราคาหุ้นที่เสนอขายจึงไม่ถูกนัก
หุ้นประเดิมซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยเปิดที่ราคา 4.80 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 4.84 บาท ก่อนจะมีแรงขายไหลทะลัก จนราคาดิ่งลง โดยลงไปต่ำสุดที่ 2.74 บาท แต่กระเตื้องขึ้นช่วงท้ายตลาด โดยปิดการซื้อขายที่ 2.82 บาท สูงกว่าจอง 89 สตางค์ หรือสูงกว่าจอง 46.11%
มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,226.57 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการซื้อขาย 979.33 ล้านหุ้น ซึ่งปริมาณหุ้นที่ซื้อขายวันแรกสูงกว่าหุ้นเพิ่มทุนที่เสนอขาย 12.23 เท่า และสูงกว่าจำนวนทุนจดทะเบียนทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งมีทั้งหมด 300 ล้านหุ้น ถึง 3.26 เท่า และเป็นหุ้นใหม่ที่สร้างสถิติใหม่ ปริมาณหุ้นซื้อขายวันแรกสูงกว่าจำนวนหุ้นที่จดทะเบียนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของหุ้นใหม่
และน่าสนใจว่า ใครขนหุ้น SAF จากที่ไหนมาซื้อขายกัน
แม้นักลงทุนที่ได้โควตาจองซื้อหุ้น SAF จะไม่เจ็บเนื้อเจ็บตัว และมีกำไรถ้วนหน้า โดยเฉพาะนักลงทุนประเภท “นกรู้” ที่เทขายหุ้นในช่วงเปิดการซื้อขาย
แต่นักเก็งกำไรที่แห่เข้ามาแลกหมัดวัดดวงกับ SAF น่าจะเจ็บตัวโดยถ้วนหน้า โดยเฉพาะนักเก็งกำไรที่ลุยเคาะซื้อหุ้นในช่วงต้นของการซื้อขาย ซึ่งเจ็บหนัก และอาจต้องค้างอยู่ “ยอดดอย” อีกยาวนาน
SAF ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและแปรรูปเหล็กกล้าเกรดพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมต่างๆ และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องในส่วนของการเลื่อยเหล็กกล้า โดยกลุ่มนายพิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ถือหุ้นใหญ่รวมกัน 59.20% และมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 454 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 37.77%
ส่วนผลประกอบการปี 2564 มีกำไรสุทธิ 15.53 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 10.02 ล้านบาท
ปัจจัยพื้นฐาน SAF ไม่ได้โดดเด่นนัก และอนาคตไม่อาจคาดหมายว่าจะสดใสเพียงใด ขณะที่ราคาหุ้นที่เสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรกไม่ถือว่าถูก แต่เมื่อเข้าซื้อขายวันแรก กลับเคาะซื้อกันสนั่นหวั่นไหว ราคาหุ้นพุ่งขึ้นช่วงแรกถึง 150% ซึ่งน่าตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่า
มีขาใหญ่ หรือเจ้ามืออยู่เบื้องหลังการลากนักลงทุนขึ้นไปเชือดหรือไม่
หุ้นน้องใหม่ที่มีพฤติกรรมราคาเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง และมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายมากผิดปกติ ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากการเก็งกำไรหลายรอบของนักลงทุนรายย่อย ไม่ได้มีเฉพาะหุ้น SAF เท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับห้องน้องใหม่นับสิบตัวแล้ว ท่ามกลางข้อสงสัยว่าน่าจะมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการลากราคา
เพียงแต่ไม่เคยมีข่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้เข้าไปตรวจสอบหุ้นใหม่ที่เข้าข่ายการซื้อขายวันแรกไม่ปกติแต่อย่างใด หรือว่าผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจพฤติกรรมหุ้นใหม่
ทั้งที่นักลงทุนที่เข้าไปเก็งกำไรหุ้นใหม่ในวันแรกจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียหาย เพราะถูกลากขึ้นไปเชือด โดยอาจมีเจ้ามือหรือขาใหญ่ ลากราคาหุ้นขึ้นไป ก่อนทุบขายทำกำไร เช่นเดียวกับหุ้น SAF
หุ้นน้องใหม่ที่ประเดิมซื้อขายในตลาด MAI เป็นตัวแรก เชือดนักลงทุนจนเลือดโชกตามๆ กัน
แต่ดูเหมือนผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์จะชินชากับพฤติกรรมที่เข้าข่ายไม่ปกติธรรมดาของหุ้นใหม่เสียแล้ว
และปริมาณซื้อขายหุ้น SAF วันแรกที่สูงกว่าจำนวนหุ้นจดทะเบียนกว่า 3 เท่า ซึ่งนักลงทุนทั่วไปอยากรู้ว่าใครขนหุ้นจากไหนมาซื้อขายกัน มีผู้ถือหุ้นเดิมเทขายหุ้นทิ้งหรือไม่
แต่ตลาดหลักทรัพย์คงไม่มีวันทำหน้าที่ตรวจสอบการซื้อขายที่เข้าข่ายไม่ปกติของหุ้น SAF