บริษัทโบรกเกอร์ส่วนใหญ่กำลังปรับมุมมอง แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2566 ประเมินว่า บรรยากาศการลงทุนจะคึกคัก และเริ่มขยับประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้น โดยบริษัท หลักทรัพย์ เครดิตสวิส (ประเทศไทย) ทำนายว่า ดัชนีจะพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,870 จุด และกลายเป็นโบรกเกอร์ที่มองโลกสวยที่สุด ตั้งเป้าหมายดัชนีไว้สูงที่สุด
ค่าเฉลี่ยประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองกันอยู่ที่ 1,741 จุด แต่โบรกเกอร์หลายแห่งมองทะลุ 1,800 จุด เพราะจะได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว เศรษฐกิจกระเตื้อง กำลังซื้อของผู้บริโภคขยายตัว และการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ
ดัชนีสิ้นปี 2565 ปิดที่ 1,668.66 จุด ถ้าปีนี้ตลาดหุ้นสดใส ดัชนีพุ่งขึ้นแตะ 1,870 จุด ตามความคาดหมายของ บล.เครดิต สวิสฯ หมายถึงดัชนีจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 202.04 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.20%
และตัวเลข 1,870 จุด จะเป็นสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้นไทย
เครดิต สวิสฯ มองปัจจัยสนับสนุนมุมองไม่แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นมากนัก แต่อาจให้น้ำหนักจากปัจจัยหนุนมากกว่า และประเมินว่า ค่าเงินบาทที่แข็งเกิดจากความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่างชาติขนเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นต่อเนื่องจากปี 2565 ซึ่งต่างชาติมียอดซื้อสุทธิประมาณ 2 แสนล้านบาท
ประเด็นความเสี่ยงปีนี้ดูเหมือนจะมีเพียงการเลือกตั้ง เพราะตามสถิติย้อนหลังช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ตลาดหุ้นไทยจะชะลอตัวเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านย่านเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพราะรอดูรัฐบาลใหม่ และนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์ทั้งหมดกว่า 40 แห่ง ไม่ได้มองโลกสวยไปทั้งหมด ไม่ได้ประเมินว่า ดัชนีหุ้นจะพุ่งไปไกลมากนัก และยังส่งสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง
เพราะแม้การท่องเที่ยวจะฟื้นตัวชัดเจน แต่เศรษฐกิจไม่ได้ดีมากนัก และอาจเกิดภาวะถดถอยซึ่งเป็นผลพวงของราคาน้ำมันกดดันให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อจนประเทศต่างๆ ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ยังต้องขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ เพื่อกดเงินเฟ้อและสกัดกั้นเงินไหลออก
โบรกเกอร์ที่มีมุมมองเชิงอนุรักษ์ประเมินเป้าหมายดัชนีปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1,730 จุดเศษเท่านั้น แตกต่างจากมุมองโลกสวยของเครดิต สวิสฯ ประมาณ 150 จุด
แม้จะมีข้อมูลเหมือนกัน อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่สมมติฐานทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 2566 ของแต่ละโบรกเกอร์แตกต่างกันมาก ซึ่งนักลงทุนจะต้องพิจารณาสังเคราะห์ว่า สมมติฐานโบรกเกอร์ใดมีความเป็นไปได้ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการกำหนดกลยุทธ์ลงทุน
แนวโน้มการลงทุนหุ้นยังไม่ได้ใสปิ๊งเสียทีเดียว เพราะมีตัวแปรมากมายพร้อมสร้างความผกผันให้ตลาด นักลงทุนจึงไม่ควรด่วนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน แต่ต้องเฝ้ารอสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนก่อน
ในสัปดาห์แรกของปี หุ้นทำท่าจะกลับเข้าสู่ขาขึ้นรอบใหม่ ดัชนีเฉียดทะลุ 1,700 จุด แต่ก็ต้องสะดุดไปต่อไม่ได้ เพราะไม่มีข่าวดีชิ้นใหม่กระตุ้น นักลงทุนแต่ละกลุ่มคุมเชิง ไม่ผลีผลามซื้อขาย จนมูลค่าซื้อขายหุ้นลดวูบเหลือระดับ 50,000 ล้านบาทเศษ ขณะที่ดัชนีขึ้นลงในกรอบแคบๆ และดูเหมือนจะถูกตรึงให้ย่ำฐานแถว 1,680 จุด
การทำเงินในตลาดหุ้นอาจฝืดเคืองเหมือนปีที่ผ่านมา จึงอย่ามองโลกสวยจนละเลยความเสี่ยง