มุมมองแนวโน้มตลาดหุนปี 2566 มีหลากหลาย โบรกเกอร์บางค่ายมองโลกสวย ประเมินดัชนีครึ่งปีแรกจะได้เห็น 1,700 จุด แต่โบรกเกอร์บางสำนักคาดการณ์แนวโน้มตลาดหุ้นไม่สดใสนัก
ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้น มีเพียงประเด็นเดียวคือ ธุรกิจการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน หุ้นกลุ่มเปิดเมืองจะโดดเด่น และทยอยปรับตัวขึ้นรอรับข่าวล่วงหน้าแล้ว
แต่ปัจจัยลบที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นมีเหมือนกัน โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย บั่นทอนกำลังซื้อ ทำให้การส่งออกชะลอตัว และจะกดดันตลาดหุ้นให้ผันผวน ขณะที่บรรยากาศการซื้อขายหุ้นซบเซา
นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยลบที่เป็นยาดำแทรกซ้อน ซ้ำเติมตลาดหุ้นให้ฟุบลงไปอีก จากการประกาศเก็บภาษีขายหุ้น อัตรา 0.055% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ประมาณต้นเดือนเมษายนปี 2566 หรืออีก 3 เดือนข้างหน้า
ไม่มีใครประเมินผลกระทบได้ว่าจะรุนแรงขนาดไหน แต่เชื่อกันว่านักลงทุนทุกกลุ่มจะชะลอการซื้อขาย พฤติกรรมการเก็งกำไรลดลง การปั่นหุ้น หรือลากราคาหุ้นเพื่อกระตุ้นการเก็งกำไรอาจจางหายไป
เพราะต้นทุนการซื้อขายหุ้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนทุกกลุ่มต้องทบทวนพฤติกรรมการลงทุน ลดความถี่ในการซื้อขาย เลิกการซื้อขายเก็งกำไรรายวัน ส่วนนักลงทุนรายใหญ่หรือเจ้ามือจะต้องคิดหนักในการปฏิบัติการปั่นหุ้นแต่ละครั้ง
เพราะถ้าเปิดปฏิบัติการแล้วจุดไฟไม่ติด ขาใหญ่หรือเจ้ามือจะเจ็บตัวหนักเสียเอง
สถานการณ์การลงทุนปี 66 ไม่มีสัญญาณการฟื้นคืนสู่ความสดใสมากนัก และยังไม่มีสำนักวิเคราะห์ โบรกเกอร์แห่งใดที่ทำนายว่า ดัชนีหุ้นจะพุ่งทะยานไปถึงระดับ 1,800 จุด หรือ 1,900 จุด ได้ยืนแค่ตัวเลขแถว 1,700 จุดเท่านั้น
สะท้อนให้เห็นว่า กูรูหุ้นไม่ได้มองตลาดหุ้นปี 2566 ดีมากนัก เพราะมีตัวแปรที่จะส่งผลกระทบรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ และสงครามรัสเซียกับยูเครนคงไม่สงบลงง่ายๆ
นักลงทุนต่างชาติที่ปี 2565 กลับเข้ามาซื้อหุ้นเกือบ 1.9 แสนล้านบาท แต่ไม่มีหลักประกันว่า ปี 2566 เงินทุนยังไหลเข้าอยู่ และต่างชาติปักหลักซื้อหุ้นต่อเนื่อง
ยิ่งไตรมาส 2 ภาษีขายหุ้นมีผลบังคับใช้ บรรยากาศการซื้อขายหุ้นอาจเงียบเป็นป่าช้า วอลุ่มซื้อขายอาจลดวูบเหลือระดับ 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน โดยนักลงทุนทุกกลุ่มอาจได้แต่เฝ้าสังเกตการณ์ รอประเมินทิศทางตลาดหลังต้องจ่ายภาษีขายหุ้น
ตลาดหุ้นปี 2565 ไม่ดีนัก มีความผันผวนตลอดปี และแทบไม่มีผลตอบแทนจากตลาดหุ้น เพราะดัชนีสิ้นปีปิดในระดับใกล้เคียงกับปี 2564
แนวโน้มตลาดหุ้นปี 2566 มีความเป็นไปได้ที่อาจไม่แตกต่างจากปี 2565 เพราะไม่มีข่าวดีที่รอคอย ความวิตกในปัญหาเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้นยังตามหลอกหลอนนักลงทุน
ความกังวลในภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก จนไม่อาจฟื้นตัวได้เต็มที่ หุ้นปี 2566 นักลงทุนต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี มีหุ้นในพอร์ตน้อยๆ กำเงินสดไว้ให้มากๆ
เฝ้ารอจังหวะการลงทุนดีๆ เพราะปี 2566 จะมีช่วงเวลาที่นักลงทุนได้ซื้อของถูกจริงๆ โดยเฉพาะหลังภาษีขายหุ้นมีผลบังคับใช้