xs
xsm
sm
md
lg

1,600 จุดรับไม่อยู่ / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ความหวังที่จะได้เห็นดัชนีหุ้นสิ้นปีนี้พุ่งทะลุผ่าน 1,650 จุด ดับวูบลงแล้ว แต่สิ่งที่นักลงทุนเฝ้าดูกันอยู่คือ แนวรับสำคัญระดับ 1,600 จุด จะยืนอยู่หรือไม่ เพราะสถานการณ์การลงทุนกำลังย่ำแย่ ช่วงโค้งสุดท้ายของปีมีแนวโน้มขาลงเต็มตัว

แม้การซื้อขายหุ้นเมื่อวันอังคารที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ดัชนียังยืนเหนือ 1,600 จุดได้ หลังจากระหว่างชั่วโมงซื้อขาย รูดลงไปต่ำสุดที่ 1,597 จุด แต่ไม่มีหลักประกันว่าดัชนีจะยืนเหนือ 1,600 จุดได้ตลอดรอดฝั่ง

ข่าวร้ายช่วงนี้อาจไม่มี แต่สิ่งที่สร้างความกังวลให้นักลงทุนทั่วโลกคือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณแล้ว โดยตัวเลขการส่งออกของหลายประเทศชะลอตัวลง และจะเห็นความตกต่ำชัดเจนในปีหน้า

เช่นเดียวกับตลาดหุ้นที่จะถูกผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนสำนักวิจัยต่างๆ ต้องปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีลง รวมทั้งเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้น

นักลงทุนกลุ่มใหญ่เริ่มชะลอการซื้อขายหุ้นแล้ว ไม่ว่านักลงทุนสถาบัน กองทุนในประเทศ พอร์ตโบรกเกอร์ และนักลงทุนต่างชาติ แต่นักลงทุนรายย่อยกลับซื้อหุ้นสวนตลาดหุ้นขาลง

ช่วงโค้งสุดท้ายของแต่ละปีนักลงทุนมักรอจังหวะเก็บหุ้นตุนไว้ รอขายทำกำไรในปีถัดไป เพราะคาดว่าแนวโน้มการลงทุนปีถัดไปจะสดใส แต่แนวโน้มตลาดหุ้นปีหน้านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่ได้มองหุ้นคึกคักมากนัก และอาจมีความผันผวนไม่แตกต่างจากปีนี้ จึงไม่ได้แนะนำให้รีบร้อนช้อนซื้อหุ้น

แต่นักลงทุนรายย่อยกลับมองว่า ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาเป็นโอกาสในการช้อนซื้อหุ้นเก็บ แม้ยังมองไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในระยะสั้นก็ตาม

การซื้อหุ้นของนักลงทุนรายย่อยจึงมีความเสี่ยงที่จะต้องแบกหุ้นต้นทุนสูงเพิ่มขึ้น

ระหว่างปี 2561-2564 นักลงทุนรายย่อยเก็บหุ้นสะสม โดยมียอดซื้อสุทธิรวมกันทั้งสิ้นกว่า 5 แสนล้านบาท และเป็นการรับไม้ต่อจากแรงขายของต่างชาติโดยตรง ซึ่งปีนี้นักลงทุนรายย่อยควรเทขายหุ้น โดยเฉพาะในข่วงต้นปีที่ดัชนีปรับตัวขึ้นทะลุ 1,700 จุด

แต่รายย่อยมียอดขายหุ้นสะสมนับจากต้นปีเพียง 23,584 ล้านบาทเท่านั้น ปล่อยให้นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนเทขายอย่างสะดวก โดยกองทุนเทขายหุ้นทิ้ง 157,103 ล้านบาท รอดตัวจากภาวะตลาดผันผวน หรือได้ปรับพอร์ตครั้งใหญ่ ระบายหุ้นออกจนพอร์ตว่าง มีเงินสดเตรียมช้อนของถูกอยู่เต็มมือ

ส่วนรายย่อยมีหุ้นเต็มพอร์ต เงินสดเหลือน้อยลง และหากหุ้นปรับฐานลงลึกจนราคาถูกจริง อาจพลาดโอกาสช้อนซื้อ เพราะเงินหมดเสียก่อน

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันจะปิดฉากตลาดหุ้นปี 2565 แล้ว แต่ช่วงเวลาที่เหลือไม่น่าจะมีซันต้าแรลลี่ หรือไม่มีการดีดตัวของตลาดหุ้นอีกสักรอบ มีแต่แนวโน้มหุ้นจะซึมลงต่อเนื่อง โดยกองทุนและต่างชาติอาจระบายขายหุ้นต่อไป

และไม่มีหุ้นกลุ่มไหนที่น่าสนใจซื้อเก็บ นอกจากหุ้นกลุ่มเปิดเมือง หรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะเป็นธุรกิจเดียวที่พอมองเห็นอนาคต โดยปีหน้าการท่องเที่ยวมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง

อีกประมาณ 3 เดือนข้างหน้า หลังภาษีขายหุ้นอัตรา 0.055% มีผลบังคับใช้ จะเป็นอีกปัจจัยที่สะกดให้ตลาดหุ้นเงียบเหงาราวป่าช้า พฤติกรรมการเก็งกำไรระยะสั้นจะถูกปรับเปลี่ยน

หุ้นเก็งกำไรร้อนแรงโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับอาจตกอยู่ในสภาพตายซาก

แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้น หรือโค้งสุดท้ายปีนี้ และแนวโน้มหุ้นระยาว หรือปีหน้าบ่งชี้ว่าอาจซบเซายืดเยื้อ จนนักลงทุนรายย่อยลดน้ำหนักพอร์ต ทยอยขายหุ้นทิ้ง

แต่ทำไมนักลงทุนรายย่อยยังลุยไม่เลิก สู้ไม่ถอย ซื้อหุ้นสวนแนวโน้มขาลง โดยไม่กลัวเจ็บกลัวตาย








กำลังโหลดความคิดเห็น