ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่แน่นอนของตลาดหุ้น เพราะช่วงต้นสัปดาห์นี้บรรยากาศซื้อขายหุ้นเงียบเหงาซบเซา ดัชนีหุ้นซึมลงจนมีแนวโน้มลงไปแตะระดับ 1,600 จุด แต่กลางสัปดาห์หุ้นทะยานสู่ความคึกคักเต็มรูปแบบ จนขึ้นมาแตะที่ระดับ 1,650 จุดอีกครั้ง
2 สัปดาห์ก่อนหน้าตลาดหุ้นเต็มไปด้วยปัจจัยลบ ทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในจีน จนนำไปสู่การประท้วงลุกลามของชาวจีนเพื่อต่อต้านนโยบายล็อกดาวน์ และสร้างความกังวลสถานการณ์ในจีน
นอกจากนั้น นักลงทุนทั่วโลกยังเฝ้าระวังผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออก สลับกับการซื้อ รวมทั้งยังมีผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ที่ฉาวโฉ่ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน
ปัจจัยลบรอบด้าน ทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าตลาดหุ้นช่วงปลายปีคงไม่สดใส และเตรียมปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีหุ้นปลายปีนี้
แต่ช่วงกลางสัปดาห์นี้หุ้นกลับพุ่งทะยานขึ้น และเริ่มมีปัจจัยในเชิงบวกสนับสนุน โดยการประท้วงต่อต้านล็อกดาวน์ในจีนคลายตัวลง นักลงทุนลดความกังวลภาวะเงินเฟ้อ และที่สำคัญ นักลงทุนต่างชาติกลับมาไล่ซื้อหุ้นอย่างหนักและต่อเนื่อง
ดัชนีหุ้นที่กำลังป้อแป้ และแกว่งตัวลงทำท่าจะไหลลงไปยืนระดับ 1,600 จุด เด้งขึ้นอย่างฉับไว และปิดครึ่งวันแรกวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สามารถผ่านทะลุแนวต้านสำคัญ 1,650 จุดขึ้นมาได้
หุ้นขนาดใหญ่ขึ้นกันยกแผง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกลายเป็นพระเอกโดดเด่นนำตลาด เพราะบางตัวรอบนี้ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 60% เช่นหุ้น บริษัท ฮานา ไมโคร อิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA
ตลาดที่อยู่ในช่วงขาลงพลิกกลับสู่ขาขึ้นรอบใหม่ แม้ไม่รู้ว่าจะวิ่งไปได้ไกลขนาดไหน แต่เป้าหมายดัชนีปลายปีระดับ 1,650 จุดที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ประมาณการไว้คงไม่มีปัญหาแล้ว ส่วนเป้า 1,700 จุด มีโอกาสได้เห็นอีกด้วย
เพราะข่าวร้ายที่มีอยู่เดิมนักลงทุนเริ่มชินชา แต่ข่าวดีที่ทยอยเขามาเป็นปัจจัยกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนครั้งใหม่
ธุรกิจการท่องเที่ยวแม้ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่ช่วงปลายปีจำนวนนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาประเทศไทยอย่างล้นหลาม โดยสามารถสัมผัสการฟื้นตัวด้ายการท่องได้อย่างชัดเจน
กระแสเงินทุนไหลกลับ โดยเห็นตัวเลขการโหมซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และเป็นไปได้ว่าแรงซื้อของต่างชาติอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงปลายปี ซึ่งเป็นกองหนุนสำคัญให้ดัชนีไต่ระดับต่อไป
โค้งสุดท้ายตลาดหุ้นไทยปีนี้คงไมเงียบเหงาอย่างที่กลัวกันก่อนหน้า
นักลงทุนรายย่อยน่าจะหาเงินเที่ยวปีใหม่จากตลาดหุ้นโดยไม่ยาก เพราะช่วงเวลาในการขายทำกำไรเปิดกว้าง
การเก็บภาษีขายหุ้นในอัตรา 0.055% ในเดือนเมษายนปี 2566 แม้จะเป็นข่าวร้าย แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศการซ้อขายหุ้นสะดุดลง
ระหว่างปี 2560-2564 นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้นสุทธิ หรือเก็บหุนสะสมไว้จำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 5 แสนล้านบาท และจากต้นปีนี้ นักลงทุยรายย่อยระบายขายหุ้นออกไม่มาก
แต่โค้งสุดท้ายปีนี้เป็นโอกาสดีในการระบายหุ้นออก และสามารถขายหุ้นได้ในราคาที่ดี
เพราะหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจนทะลุ 1,700 จุดในสิ้นปี แต่ต้นปีหน้าไม่มีใครบอกได้ว่าหุ้นจะไปต่อได้อีกหรือไม่
เพียงแต่มีความหวังกันว่า ช่วงเวลาที่เหลืออันน้อยนิดในปีนี้นักลงทุนคงได้สนุกกับตลาดหุ้นกันอีกสักพัก
