xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นโควิดระบาดเร็ว ฉุดหุ้นไทยปิดร่วง -3.93 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด -3.93 จุด นักวิเคราะห์มองตลาดกังวลตัวคูณอัตราเร่งการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบใหม่ และผลกระทบจากห่วงโซอุปทานในภาคอุตสาหกรรมของจีนจากการบังคับใช้กฏหมายคุมเข้มหลังการระบาดต่อเนื่องจนลุกลามกลายเป็นประท้วงใหญ่ มองภาพการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดดัชนียังคงแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,610-1,620 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 28 พ.ย.2565 ปรับตัวลดลง -3.93 จุด หรือ -0.24% โดยปิดตลาดที่ 1,616.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,679.18 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน และมีมูลค่าการซื้อขายไม่มาก โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,620.78 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,612.56 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 455 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 544 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,116 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +666.48 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -77.26 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -3.57 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -585.66 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,074.84 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,256.97 ล้านบาท ปิดที่ 184.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,010.07 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 954.58 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 852.20 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท ลดลง 0.30 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BGRIMปิดที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.74%
2.KCEปิดที่ 47.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 2.14%
3.EGCOปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น1.00บาท หรือ 0.59%
4.CCปิดที่ 338.00 บาท เพิ่มขึ้น1.00 บาท หรือ 0.30%
5.GPSCปิดที่ 69.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.09%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEPปิดที่ 184.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.34%
2.SINGERปิดที่ 30.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.97%
3.BHปิดที่ 217.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.46%
4.DTACปิดที่ 41.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.80%
5.RCLปิดที่ 28.75 บาท ลดลง 0.50บาท หรือ 1.71%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,202.13 จุด ลดลง -7.53 จุด หรือ -0.34% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 979.53 จุด ลดลง -3.74 จุด หรือ -0.38% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 575.18 จุด ลดลง -7.25 จุด หรือ -1.24%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการประท้วงนโยบาย Zero Covid ของทางการจีนซึ่งออกมาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออก ทำให้อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันของจีน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลงไปด้วย กดดันกลุ่มพลังงานและปิโครเคมี

ขณะเดียวกันตัวเลขการส่งออกของประเทศไทยที่ออกมาหดตัว 4.4% ในเดือน ต.ค.65 สวนทางกับตลาดที่คาดว่าจะเติบโต 6% ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกปรับตัวลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามยังมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มการแพทย์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเข้ามาพยุงดัชนีไว้ได้ระดับหนึ่ง ทำให้ปรับลดลงไม่มากนัก

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,610-1,620 จุด ยังคงไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน พร้อมแนะนำให้ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะออกมาในวันพุธที่จะถึงนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น