หุ้นไทยปิดบวก 7.48 จุด นักวิเคราะห์เผย SET INDEX ฟื้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค รับข่าวจีนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด ทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นบิ๊กแค็ปจากเงินทุนต่างชาติ และทิศทางบาทที่แข็งค่า มองกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,630 - 1,640 จุด และแนวรับที่ 1,610-1,620 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 29 พ.ย. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.48 จุด หรือ +0.46% โดยปิดตลาดที่ 1,624.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,771.54 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีพลิกกลับเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากที่ในช่วงเปิดตลาดปรับตัวลง โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,625.67 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,613.87 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 861 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 586 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 722 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +3,274.15 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,884.80 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -63.08 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า-1,326.27 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AURA มูลค่าการซื้อขาย 5,393.95 ล้านบาท ปิดที่ 14.70 บาท เพิ่มขึ้น 3.80 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,018.82 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,941.47 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,840.81 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,713.65 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEPปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 2.45%
2.KBANKปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.39%
3.BHปิดที่ 219.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.92 %
4.SCCปิดที่ 340.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.59%
5.ADVANCปิดที่ 190.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 0.80%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMARTปิดที่ 42.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.75%
2.BGRIMปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.33%
3.TQMปิดที่ 38.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.28%
4.AEONTSปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.31%
5.RBFปิดที่ 12.40 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.36%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,217.52 จุด เพิ่มขึ้น 15.39 จุด หรือ 0.70% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 986.92 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด หรือ 0.75% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 574.70 จุด ลดลง -0.48 จุด หรือ -0.08%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีรีบาวด์กลับมา หลังจากปรับตัวลงไปเมื่อวาน และเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยที่มีปัจจัยหนุนจากประเด็นกระแสข่าวทางการจีนอาจจะมีการคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 หลังจากมีผู้ออกมาประท้วง ซึ่งทำให้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
ขณะเดียวกันยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนี และคาดว่าจะมาจากการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติในช่วงปลายเดือนหลังจากกลับมาจากช่วงเทศกาลของสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ก่อน และค่าเงินบาทที่มีทิศทางแข็งค่าขึ้นที่ช่วยหนุนดัชนีในวันนี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยที่ยังรอติดตามปัจจัยในและต่างประเทศพรุ่งนี้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยอย่างไร และการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯในคืนวันนี้ โดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,630-1,640 จุด แนวรับ 1,610-1,620 จุด
