ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานการใช้มาตรการทางแพ่ง ลงโทษปรับคดีปั่นหุ้น บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MBAX วงเงินกว่า 8.6 ล้านบาท
ผู้ร่วมขบวนการปั่นหุ้นมีเพียง 2 คน คือ น.ส.อุไรวรรณ แซ่หลี และนายธีรพล สินไทย พฤติกรรมความผิดเกิดขึ้นระหว่างเดือน กรกฎาคม ถึงพฤศจิกายน 2563 โดยปั่นหุ้น MBAX จาก 4.40 บาท ขึ้นไปถึง 8.60 บาท หรือลากราคาหุ้นเพิ่งขึ้นไป 95%
ตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ตรวจพบความผิดปกติของการซื้อขาย ก่อนที่จะส่งเรื่องให้ ก.ล.ต.สอบในเชิงลึก จนรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งถือว่า คดีนี้มีความรวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับการปั่นหุนในคดีอื่น ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อมูลหลักฐานประมาณ 4-5 ปี
ความผิดการปั่นหุ้น ก.ล.ต.จะใช้หลักเกณฑ์การปรับ โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการปั่นหุ้น และคูณด้วยสอง ซึ่งค่าปรับจำนวน 8.6 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า การปั่นหุ้น MBAX ไม่ใช่ขบวนการใหญ่ หรือเป็นแก๊งปั่นหุ้นแก๊งใหญ่
แต่เป็นขบวนการปั่นหุ้นเล็กๆ มีผู้ร่วมมือเพียง 2 คน และวงเงินที่ใช้ในการปั่นราคาหุ้นไม่สูง
น ส.อุไรวรรณ จัดเป็นนักลงทุนรายใหญ่ ในพอร์ตมีหุ้นที่ถือไว้นับสิบบริษัท โดยกระจายการถือจำนวนไม่มากในแต่ละบริษัท และส่วนใหญ่ไม่มีรายชื่อปรากฏใน 10 อันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยซ้ำ นอกจากนั้น ไม่เคยปรากฏชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างราคาหุ้น
แต่การปั่น MBAX อาจเป็นเพราะประเมินแล้วว่าอยู่ในความสามารถที่จะปั่นได้ เพราะหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดไม่มาก จึงหวังรวยทางลัด
MBAX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 29 มกราคม 2550 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคา 5 บาท จากพาร์ 1 บาท
ผลประกอบการบริษัทมีกำไรต่อเนื่อง และจ่ายเงินปันผลมาตลอด ปกติปีละ 2 ครั้ง มีค่าพี/อี เรโชเพียง 5.96 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.83% ส่วนโครงสร้างผลถือหุ้นประกอบด้วย วีรชาติ โล่ห์ศิริ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง สัดส่วน 15.37% ของทุนจดทะเบียน โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อย 4,348 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 55.83%
ปี 2562 MBAX มีผลกำไร 50.98 ล้านบาท ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 176.06 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 62.41 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 128.58 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25.05 ล้านบาท
การซื้อหุ้น MBAX ไม่มีสภาพคล่องมากนัก โดยมูลค่าซื้อขายวันละไม่กี่แสนบาท หรืออาจไม่กี่ล้านบาท ไม่ใช่หุ้นเก็งกำไรยอดนิยม แต่มีลักษณะหุ้นถือเพื่อการลงทุนระยาวมากกว่า และมีปัจจัยพื้นฐานรองรับที่แข็งแกร่ง
น.ส.อุไรวรรณ อาจเห็นว่า MBAX มีปัจจัยพื้นฐานดี เพียงแต่ราคาอาจขยับขึ้นไม่ทันใจ จึงอาศัยพื้นฐานในตัวหุ้นเป็นทุน ลากราคาขึ้นมา ล่อแมลงเม่าให้ตามแห่ และหาจังหวะขายทำไร แต่พฤติกรรมการซื้อขายที่ผิดจากสภาพปกติ กลายเป็นเป้าให้ตลาดหลักทรัพย์เข้ามาตรวจสอบ จนพบเบื้องหลังราคาหุ้นที่พุ่งทะยาน
และแม้จะถือเป็นการปั่นหุ้นของมือสมัครเล่น แต่เมื่อเข้าข่ายการกระทำความผิด เอาเปรียบนักลงทุนทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์และ ก.ล.ต.ไม่อาจละเว้นได้
หุ้นปั่นไม่จำกัดเฉพาะหุ้นที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการย่ำแย่ หรือขาดทุนต่อเนื่องเท่านั้น
หุ้นมีปัจจัยพื้นฐานอย่าง MBAX ก็ปั่น ลากแมลงเม่าขึ้นไปติดยอดดอยได้เหมือนกัน
