xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต.เดินหน้าเอาผิดทางอาญากลุ่มผู้กระทำความผิดกรณีหุ้น "MORE"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360 - ก.ล.ต. เดินหน้าเอาผิดทางอาญากลุ่มผู้กระทำความผิดกรณีหุ้น "MORE" ระบุอาจเข้าข่าย "การกระทำไม่เป็นธรรม" และย้ำไม่ได้เข้าสู่มาตรการลงโทษทางแพ่ง พร้อมตั้งคณะทำงานเฉพาะดำเนินการหวังเรียกคืนความเชื่อมั่นคืน ด้านโบรกเกอร์เข้าหารือ ก.ล.ต. ทำความเข้าใจกระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือส่งข้อมูลให้ ก.ล.ต. ขณะที่ ตลท. เผยไม่พบการซื้อขายผิดปกติหลังรายย่อยนัดหยุดเทรดประท้วงรีดภาษีขายหุ้น วอลุ่มตลอดทั้งวันแค่ 4.2 หมื่นล้านบาท

น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 10 ราย ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบการกระทำผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ว่า ขณะนี้ทางสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ทำงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยกำลังพิจารณาเรื่องการกระทำผิดที่อาจเข้าข่าย "การกระทำไม่เป็นธรรม"

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ยืนยันว่าจะนำกรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการเอาผิดทางอาญา ไม่ได้เข้าสู่มาตรการลงโทษทางแพ่ง ซึ่งความชัดเจนตรงนี้เชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารเปิดเผยได้ เพราะถ้าเรื่องเข้าสู่ทางอาญาแล้วการจะเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ไม่สามารถทำได้มาก อาจกระทบกระบวนการทำงาน โดย ก.ล.ต. ได้มอบหมายให้นายเอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย เป็นประธานคณะทำงานกรณีหุ้น MORE เป็นผู้ดำเนินการ

"ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างกระบวนการทำงานร่วมกัน หากได้รับข้อมูลอะไรเข้ามาเพิ่มเติมจะนำมาวิเคราะห์ข้อมูล โดยจะรายงานแจ้งความคืบหน้าในที่ประชุม ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์" น.ส.รื่นวดี กล่าว

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ยังคงดำเนินการตาม 3 โจทย์ใหญ่ที่จะต้องดำเนินการและยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการตามโจทย์ให้เร็วที่สุด คือ 1.ตรวจสอบว่ามีการกระทำที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ 2.เข้าตรวจสอบว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ และโบรกเกอร์ปฏิบัติหน้าที่ตามเกณฑ์หรือไม่ และ 3.ปรับเกณฑ์เรื่องคุณภาพของ บจ.โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กๆ เช่น การรับหลักทรัพย์ จะทำอย่างไรให้หุ้นขนาดเล็กมีคุณภาพมากขึ้น

นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าพบ ก.ล.ต.ครั้งนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีปัญหาหุ้น MORE โดยต้องการให้มีการปรับหลักเกณฑ์เพื่อดูแลตลาดทุนไทย โดยเฉพาะการป้องกันขบวนการสร้างราคา หรือปั่นหุ้น และจากกรณีที่เกิดขึ้นสมาคม บล.พร้อมทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง

"ก.ล.ต. สามารถขอข้อมูลจากสมาคม บล. เพื่อศึกษาข้อมูลร่วมกัน หากมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นต้องทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆ ร่วมกันอีกครั้ง ยกตัวอย่างเช่น กรณีโอนหุ้นข้ามชื่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว หากโอนต้องเป็นชื่อเดียวกัน คนเดียวกันเท่านั้น ซึ่งยอมรับที่ผ่านมามีช่องทางที่ทำให้เกิดการทุจริตได้ จึงต้องหาทางอุดช่องโหว่เพื่อป้องกันการทุจริตและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้" นายพิเชษฐ กล่าว

* ตลท.ยันไม่พบการซื้อขายผิดปกติ

ส่วนความเคลื่อนไหวกรณีที่นักลงทุนรายย่อยนัดหยุดการซื้อขายหุ้นประท้วงการจัดเก็บภาษีหุ้นนั้น เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ปรากฏว่า บรรยากาศการซื้อขายตลาดหุ้นค่อนข้างซบเซา โดยราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,615.06-1,625.90 จุด ก่อนจะปิดที่ 1,620.49 จุด ลดลง 1.79 จุด หรือ 0.11% มูลค่าการซื้อขายรวม 42,658.10 ล้านบาท

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ภาพรวมในการซื้อขายช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่พบการซื้อขายที่ผิดปกติ โดยมูลค่าซื้อขายหุ้นแบ่งเป็นนักลงทุนในประเทศ 9,000 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน 3,000 ล้านบาท สะท้อนถึงสัดส่วนไม่ได้แตกต่างจากวันอื่นๆ มากนัก

นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแสดงออกของนักลงทุนรายย่อย เพราะการเก็บภาษีดังกล่าวกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยโดยตรง สมาคมมีความกังวลจะกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดทุนไทยลดลง ทำให้เกิดผลกระทบในหลายมิติในตลาดทุนไทย ไม่เฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่มองว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดเท่านั้น

"การเก็บภาษีขายหุ้น ผลกระทบมากสุดคือ รายย่อยที่ซื้อขายหุ้นภายในวันเดียว (Day Trade) ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น โอกาสทำกำไรน้อยลง จากที่เคยมีการซื้อขายเกิดขึ้นมากๆ มีโอกาสซื้อขายลดลง เมื่อสภาพคล่องในตลาดลดลง ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึง การตัดสินใจเข้าลงทุนของกลุ่มนักลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ รวมถึงยังส่งผลกระทบต่อการระดมทุนของตลาดแรกในอนาคตจะยังน่าสนใจหรือไม่ และจะส่งผลมายังกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กด้วย" นายพิเชษฐ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น