แม้ว่าตลาดบ้านเดี่ยวจะเป็นสินค้าที่ผู้ซื้อให้การตอบรับและต้องการจะมีที่อยู่อาศัย เนื่องด้วยมีสเปซทั้งภายในบ้าน และพื้นที่รอบบ้านที่รองรับต่อการทำกิจกรรมร่วมกันของสมาชิก อันเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ได้เข้ามาแปรเปลี่ยนพฤติกรรม (ไลฟ์สไตล์) การใช้ชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
แต่โจทย์ในปัจจุบัน การจะพัฒนาโปรดักต์ที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้สมการเรื่องภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อ ต้นทุนที่สูงขึ้น กลายเป็น "โจทย์ใหญ่" ที่ดีเวลลอปเปอร์ต้องถอดสูตรออกมาให้ได้ เพื่อกำหนดเป้าในการส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพได้ตรงกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน
นางพิมพรรณ ปรีชานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบริหารแบรนด์และพัฒนาสินค้าบ้านเดี่ยว บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า เอพีได้รุกขยายตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตและมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จของโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ เอพี กับคอนเซ็ปต์ FUNCTIONAL IS BEAUTIFUL หรือบ้านที่เข้าใจชีวิต ถือเป็น Key Success สำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
โดยผลสำเร็จของยอดขายกลุ่มแบรนด์โครงการแนวราบในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำได้สูงถึง 36,154 ล้านบาท และเชื่อมั่นจะสร้างยอดขายได้เกินเป้าที่วางไว้ทั้งปี 38,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ปีนี้ เอพี ไทยแลนด์ วางเป้าเปิดโครงการแนวราบ 60โครงการ แต่ด้วยผลงานที่ดีและโดดเด่นของกลุ่มสินค้าแนวราบ ทำให้ทางบริษัทฯ ขยับบางโครงการที่จะเปิดในปลายปี 65 ไปทำการตลาดในไตรมาสแรกปี 66 เช่น กลุ่มโครงการบ้านเดี่ยว ขยับไปเปิดต้นปีหน้า 3 โครงการ ในแบรนด์ The CITY มูลค่าโครงการรวม 4,230 ล้านบาท เป็นต้น
ล่าสุด กลุ่มธุรกิจสินค้าบ้านเดี่ยวพร้อมเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ (ECONOMY CLASS) ที่ชื่อว่า MODEN (โมเดน) โดยใช้ความชำนาญในการพัฒนาบ้านเดี่ยวในเซกเมนต์ต่างๆ มาสร้างโอกาสในการเติบโตให้พอร์ตสินค้าบ้านเดี่ยวเอพี ควบคู่ไปกับการส่งมอบตัวเลือกใหม่ ให้ลูกค้ามีสิทธิที่จะเลือกชีวิตดีๆ ที่ต้องการเองได้ผ่าน 3 โครงการทำเลแรก มูลค่ารวม 3,680 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการ MODEN พระราม 2 ขนาด 46ไร่ จำนวน 204 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท กับทำเลพระราม 2 เชื่อมต่อเอกชัย-วงแหวน-มหาชัย ใกล้ทางด่วนและเซ็นทรัล พระราม 2 เริ่ม 3.99-8 ล้านบาท
2.โครงการ MODEN บางนา-ศรีนครินทร์ ขนาด 40ไร่ จำนวน 185 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,080 ล้านบาท เพียง 10 นาทีถึงเมกา บางนา พร้อมเชื่อมต่อ ถ.กาญจนาฯ ถ.เทพารักษ์ และ ถ.แพรกษา เริ่ม 4.95-9 ล้านบาท
และ 3.โครงการ MODEN บางนา-เทพารักษ์ ขนาด 67ไร่ จำนวน 295 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท บนทำเลเพียง 5 นาทีถึงบางนา-ตราด ใกล้ทางด่วนบูรพาวิถี เริ่ม 3.99-8 ล้านบาท
"การถอดสมการเรื่องการทำบ้านขายราคา 3 ล้านบาท จึงถูกตัดทิ้งเป็นสิ่งแรก และจากการศึกษาตลาดในเซกเมนต์ ECONOMY พบว่า วันนี้ภาพตลาดมีการ Reshape ตามความเป็นจริง “บ้านต้องเป็นได้ทุกอย่าง” และนี่ถือเป็นโจทย์และแนวทางในการพัฒนาสเปซและฟังก์ชันต่างๆ ของบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ MODEN ของเอพี"
สำหรับจุดขายของบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ MODEN ภายใต้โจทย์ “บ้านต้องเป็นได้ทุกอย่าง” คือบ้านใหญ่ สเปซที่มากกว่า กับแนวคิด Zero-Wasted Space ที่ให้ทุกตารางนิ้วใช้งานได้อย่างคุ้มค่า บนพื้นที่ความสุขที่ออกแบบเองได้ ไม่ตามแบบใคร กับ 5 แบบบ้านดีไซน์ใหม่ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50-54 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 175-235 ตารางเมตร (ตร.ม.) น้อยแต่มากด้วยงานสถาปัตยกรรม Façade ในสไตล์ Minimalist เรียบง่าย แต่ทำให้พื้นที่ภายในลงตัว โปร่งโล่งด้วยช่องแสงและบานหน้าต่างในทุกพื้นที่ พร้อมเพิ่มความอบอุ่นของบ้านด้วยสีโทนไม้จากธรรมชาติ อุ่นใจด้วยระบบสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor ทั้งหลัง พร้อม Outdoor Camera 1 จุด และ Clubhouse ขนาดใหญ่ ภายใต้มาตรฐานบ้านเดี่ยวเครือเอพี ซึ่งทั้งหมดล้วนตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็น Young Generation ระดับรายได้ 50,000 บาท ไปจนถึง 1 แสนบาท มองหาบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนเมือง
“แนวคิดในการออกแบบบ้านในแบรนด์ MODEN นั้นเราเล็งเห็นถึงขนาดของครอบครัวในปัจจุบันที่เล็กลง สมาชิกน้อยลง แต่ยังคงต้องการใช้พื้นที่บ้านอย่างเต็มที่ ดังนั้น ความหลากหลายของฟังก์ชันที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เอง บวกกับความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ หากเทียบในตลาดบ้านระดับ Economy จึงเป็นเรื่องที่ทีมออกแบบเราให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งสะท้อนผ่านพื้นที่ต่างๆ ภายในแบบบ้าน MODEN ทุกโมเดลของเรา เช่น การออกแบบ Master Bedroom ขนาดใหญ่จำนวน 2 ห้องในชั้นบน หรือห้องอเนกประสงค์ในชั้น 1 ที่สามารถปรับสเปซเป็นได้ทั้งห้องนอน ห้องทำงาน ห้องดูหนัง จนถึงห้องผู้สูงอายุ รวมถึงการออกแบบให้มีห้องเก็บของด้านนอกบ้าน ลานอเนกประสงค์ และครัวขนาดใหญ่ ซึ่งเรามั่นใจว่า MODEN คือบ้านเดี่ยวในเซกเมนต์ ECONOMY หนึ่งเดียวที่สมบูรณ์ครบทุกอย่างที่คนรุ่นใหม่ต้องการ”
ทั้งนี้ MODEN ทั้ง 3 โครงการมียอดขายในรอบ VVIP ประมาณ 300-400 ล้านบาท โดยภายในสิ้นปี 2565 ยอดขายจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับกว่า 700 ล้านบาท โดยจะมีการเปิดพรีเซลพร้อมกันในวันที่ 17-18 ธ.ค.65 Add Line โครงการ หรือลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษสูงสุด 100,000 บาท
