xs
xsm
sm
md
lg

นายกเล็ก ทต.ห้วยกระเจา เตรียมผลักดัน “น้ำพุโซดาบาดาล” เป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - เกือบลืมกันไปแล้ว “น้ำพุโซดาบาดาล” ยังอยู่นะ แม่ค้าอาหารตามสั่งวอนปรับภูมิทัศน์รับนักท่องเที่ยวรอบพุโซดาบาดาล ส่วนนายกเล็ก ทต.ห้วยกระเจา ชวนดื่มน้ำแร่โซดาเพื่อสุขภาพ เผยอนาคตพร้อมผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจพุโซดาบาดาลโครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ ในการหาแหล่งน้ำมาบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งซ้ำซากให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งพุโซดาที่ค้นพบตั้งอยู่ในท้องที่ หมู่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย

สำหรับพุโซดาบาดาลค้นพบครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จากนั้นได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในระดับประเทศ ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 คน เดินทางมาทดลองดื่มน้ำพุที่มีรสชาติคล้ายกับโซดา รวมทั้งถ่ายภาพเซลฟี่กับน้ำพุที่พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าระดับ 10-20 เมตร เอาไว้เพื่อเป็นที่ระลึก ทำให้เกิดร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งร้านกาแฟผุดขึ้นโดยรอบบริเวณ แต่หลังจากเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวเริ่มซบเซาลง การพัฒนาไม่สามารถเดินต่อไปได้


นางพิมพา ไชยลังกา เจ้าของร้านเจ๊พิม กล่าวว่า ตนเปิดร้านขายอาหารจานเดียวมาตั้งแต่สมัยพุโซดาบาดาลเริมรุ่งเรือง สมัยก่อนมีร้านค้าอยู่นับ 100 ร้าน ทำให้เม็ดเงินสะพัดในพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่หลังจากโควิด-19 ระบาด สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เริ่มซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าต่างๆ ที่มีอยู่เริ่มทยอยปิดตัวลง ปัจจุบันนี้เหลืออยู่แค่ 3 ร้านเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ต่ำกว่า 100 คน ทำให้พอขายอาหารได้บ้าง อย่างน้อยวันละกว่า 1,000 บาท หรือ 800 บาท แต่มีบางวันที่ขายไม่ได้เลยโดยเฉพาะวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ภาพรวมยังพออยู่ได้ แต่ต้องใช้จ่ายกันอย่างประหยัด ทั้งนี้อยากฝากไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้มาช่วยพัฒนาพื้นที่พุโซดาบาดาลให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนในอดีต โดยเบื้องต้นขอให้มาสร้างที่นั่งพักให้นักท่องเที่ยวที่มาในวันหยุดเพื่อหลบแดด เพราะช่วงเวลากลางวันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนจัด


นายอภิชาต สืบศักดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา กล่าวว่า ปัจจุบันที่พุโซดาบาดาลยังคงมีแร่โซดา ห้วยกระเจา จำหน่ายให้นักท่องเที่ยวที่มาเช่นเดิน โดยจำหน่ายเป็นแพกๆ ละ 1 โหล ในราคา 100 บาท เงินที่ได้มาจะนำไปจ่ายค่าไฟฟ้าและจ่ายค่าแรงให้ผู้ดูแล ในอนาคตทางเทศบาลจะนำตัวอย่างน้ำแร่ไปตรวจที่ อย.เมื่อ อย.ผ่านให้แล้วเราจะเริ่มทำเป็นแพกเกจให้สวยงาม เพื่อนำไปเป็นของฝากสำหรับเทศบาลในอนาคต และนอกจากนี้ จะทำการโฆษณาเพื่อโปรโมตไปถึงเทศบาล หรือ อบต.และหน่วยงานต่างๆ ให้ทราบ เมื่อหน่ายงานเหล่านั้นมีการจัดกิจกรรม ทางเทศบาลของเราจะนำไปแจกหรือจำหน่ายเพื่อให้ทุกคนได้ทดลองดื่ม

ที่ผ่านมา มีชาวบ้าหลายคนที่ได้ดื่มน้ำแร่โซดาห้วยกระเจา พบว่า สุขภาพดีขึ้น จึงมีการบอกต่อๆ กันไป บางคนเดินทางมาจากจังหวัดเชียงใหม่ และอีกหลายจังหวัดได้นำกลับไปดื่มที่บ้านเมื่อดื่มแล้วรู้สึกสุขภาพดีขึ้น จึงโทร.หาญาติที่อยู่ใกล้มาซื้อแล้วส่งไปให้ บางรายถึงกับเดินทางมาซื้อแบบเหมาเพื่อนำไปฝากญาติพี่น้องก็มี


สำหรับวันหยุด หรือช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง อยากจะเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวชมสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น คือ พุโซดาบาดาลที่ขุดเจาะพบมาแล้วร่วม 2 ปี แต่พุโซดายังพวยพุ่งอย่างสวยงามไม่ยอมหยุด และไม่มีท่าทีว่าปริมาณจะลดลง ซึ่งสุดท้ายนี้หวังว่า ประชาชนชาวตำบลห้วยกระเจา รวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่เคยมาจะยังคงจำกันได้และไม่ลืมว่า แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ยังคงมีอยู่เช่นเดิม และอนาคตทางเทศบาลจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังอย่างถาวรต่อไป

ด้านนายสุเวทย์ สินสถาพรพงศ์ หรือลุงเกี๊ย อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตนได้มอบที่ดินบริเวณพบพุโซดาบาลให้หน่วยงานรัฐไปจำนวน 2 งาน และที่จุดจ่ายน้ำให้ประชาชนอีกประมาณ 2-3 ไร่ ครั้งแรกที่พบพุโซดาบาล ทาง อบจ.ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการปรับภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เข้ามาสำรวจ และต้องใช้พื้นที่เพิ่มอีกประมาณ 60-100 ไร่ แต่คงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะพื้นที่โดยรอบพุโซดาบาดาลมีอยู่กว่า 10 เจ้าของ




กำลังโหลดความคิดเห็น