หลังจากติดฟลอร์ ตกต่ำสุด 30% มา 5 วันซ้อน หุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) MORE ฟื้นขึ้นมาใหม่ในการซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนักเก็งกำไรแห่เข้าตะลุมบอนจนราคาเด้งขึ้นมา ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น
MORE ถูกถล่มลงหลังการซื้อขายหุ้นที่มีลักษณะอำพรางช่วงเปิดการซื้อขาย หรือ ATO วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน ในราคาหุ้นละ 2.90 บาท จนราคาลงมาปิดที่ 1.95 บาท หรือลงติดฟลอร์เป็นวันแรก ติดฟลอร์อีก 4 วันต่อมา
แม้ตลาดหลักทรัพย์จะแขวนป้าย SP พักการซื้อขายหุ้น MORE ระหว่างวันที่ 14-18 พฤศจิกายน หรือพักการซื้อขายยาว 1 สัปดาห์ แต่ไม่อาจสกัดกั้นความตื่นตระหนกของนักลงทุนได้ โดยเมื่อเปิดการซื้อขายอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน หุ้นถูกเทขายรูดลงติดฟลอร์ทันที
และการซื้อขายวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน MORE ทำท่าจะย่ำแย่ต่อ เพราะเปิดการซื้อขายที่ราคา 34 สตางค์ ติดฟลอร์เป็นวันที่ 6 แต่มีแรงซื้อทะลักเข้ามาจนราคาหุ้นดีดตัวขึ้น
แม้จะถูกทุบลงติดฟลอร์อีกครั้ง แต่มีแรงซื้อลากหุ้นจนวิ่งฉิว ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 59 สตางค์ เพิ่มขึ้น 11 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 22.92% มูลค่าซื้อขาย 2,379.69 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณซื้อขาย 5,318.64 ล้านหุ้น
ผลกระทบจากความตื่นตระหนกจากการซื้อขายหุ้น MORE และถือเป็นปฏิบัติการปล้นโบรกเกอร์เมื่อเช้าวันที่ 10 พฤศจิกายนเริ่มจางลงแล้ว หลังจากหุ้นลงมา 5 วันติด จนกลายเป็นหุ้นที่สร้างสถิติใหม่ในความตกต่ำสุดขีดของตลาดหุ้น
ปฏิกิริยาตอบรับข่าวร้ายหุ้น MORE ราคาหุ้นได้ซึมซับแทบจะหมดแล้ว แต่ MORE ยังไม่มีข่าวดีอะไร
ราคาหุ้นที่ดีดกลับแรงในวันพฤหัสฯ เกิดจากการเก็งกำไรล้วนๆ โดยนักลงทุนเฝ้าหาจังหวะเข้ามาเล่นหุ้น MORE หลายวันแล้ว และประเมินกันว่า ฟลอร์ที่ 6 หรือราคาที่ 34 สตางค์ เป็นช่วงเวลาที่น่าเข้าไปเสี่ยง หรือน่าเล่นวัดดวง
เมื่อติดฟลอร์ที่ 6 จริง นักเก็งกำไรจึงเข้าไปช้อน จนเกิดสัญญาณการกลับตัวของหุ้น MORE กระตุ้นให้นักเก็งกำไรตามแห่เข้าไปซื้อขายกันฝุ่นตลบ
แต่การซื้อขายช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน หุ้น MORE ก็กลับสู่ความสงบ ราคาไม่เคลื่อนไหวร้อนแรง มูลค่าการซื้อขายเบาบางลง และไม่อาจประเมินทิศทางราคาในระยะสั้นได้
ค่าพี/อี เรโช MORE อยู่ที่ประมาณ 3 เท่าเศษ แต่ค่าพี/อี เรโชที่ต่ำเกิดจากผลประกอบการปี 2564 ที่กำไรพุ่งพรวด 1,158 ล้านบาท เนื่องจากการขายทรัพย์สินการปรับโครงสร้างหนี้ไม่ได้เกิดจากผลการดำเนินงานปกติ
ค่าพี/อี เรโชที่ต่ำ จึงไม่ได้สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง นอกจากนั้น นักลงทุนยังเฝ้าติดตามผลการสอบสวนของตำรวจ เพื่อหาผู้ที่ร่วมขบวนการซื้อขายหุ้น MORE ที่ไม่สุจริตอยู่
เพราะหากมีผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE เข้าไปเกี่ยวข้อง จะเป็นข่าวร้ายอีกระลอกที่ฉุดให้ราคาหุ้นดิ่งลงเหวครั้งใหม่
และต้องไม่ลืม การประเมินมูลค่ายุติธรรมหุ้น MORE ของบริษัท ไอ วี โกลบอล จำกัด บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอีกสระ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และให้ราคาหุ้นยุติธรรมอยู่ที่ 19-20 สตางค์เท่านั้น
จะเข้าไปลุยหุ้น MORE จะเข้าไปแลกหมัดวัดดวงต้องดูตาม้าตาเรือ และต้องไม่ลืมว่า ข่าวร้ายหุ้นตัวนี้ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว
แม้ MORE จะลุกขึ้นมาจากหลุมแล้ว แต่มีโอกาสกลับลงหลุมอีกครั้งได้เหมือนกัน
