บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway หลังนโยบายขึ้นดอกเบี้ยแบบเชิงรุกของเฟดเริ่มส่งผลกระทบเศรษฐกิจ พร้อมมีลุ้นการประชุมรอบหน้า 13-14 ธ.ค. ชะลอความร้อนแรงลง บวก มีลุ้นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายปลายปี เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และคนละครึ่งเฟส 6 จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,570-1,620 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว พร้อมชู 10 หุ้นเด่น TNP-KK-ERW-CENTEL-VRANDA-ASAP-SPA-AAV-BA-AOT น่าลงทุน
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน Sideway เนื่องจากนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจเริ่มเห็นผล โดยล่าสุด สหรัฐฯ รายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นปรับตัวลงสู่ระดับ 47.3 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 49.5 ในเดือน ก.ย. เนื่องจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน บ่งชี้ว่าภาคผลิตและภาคบริการชะลอตัว
ส่วน Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า การประชุมเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้มีนักลงทุนราว 53.5% เท่านั้นที่คาดว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ลดลงจากเดิมที่เคยสูงถึง 75% อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามตัวเลข GDP 3Q65 (ประมาณการเบื้องต้น) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
ส่วนปัจจัยในประเทศด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการเตรียมดันโครงการใหม่หนุนการใช้จ่ายปลายปีกระตุ้นเศรษฐกิจ เบื้องต้น มีความเป็นไปได้ที่จะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 และคนละครึ่งเฟส 6 ซึ่งคาดว่าจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป ดังนั้น จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,570-1,620 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาปัจจัยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น วันที่ 26-29 ต.ค. ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 วันที่ 27-29 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน BOT Digital Finance Conference 2022 วันที่ 28 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ส่วนปัจจัยจับตาในต่างประเทศในวันที่ 26 ต.ค. สหรัฐฯ รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ย. และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 27 ต.ค. จีน รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย สหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) 3Q65 (ประมาณการเบื้องต้น) และวันที่ 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีเสนอโครงการคนละครึ่งเฟส 6 และเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เข้าสู่ที่ประชุม โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หาก ครม.มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าว ได้แก่ TNP, KK, ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP, SPA, AAV, BA และ AOT
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาประกาศดัชนีเงินเฟ้อส่วนบุคคล หรือ Core PCE โดยตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูงต่อไป ส่งผลให้เฟดอาจเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยตลาดให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ครั้งละ 0.75% ทำให้กรอบดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีอยู่ที่ 4.25-4.50% ความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ทรงตัวเหนือ 4.23% กดดันราคาทองคำเพิ่มเติม
โดยฝ่ายวิจัยมองว่าราคาทองคำอาจถูกกดดันเพราะใกล้วันประชุม FED ครั้งถัดไปในวันที่ 1-2 พ.ย. เราประเมินกรอบราคาทองคำในสัปดาห์นี้ที่ 1,600-1,650 $/oz แนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้